คณะทำงานเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ทบทวนมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี รับมือนโยบายทรัมป์

14 กุมภาพันธ์ 2568, 17:30น.


          นายชอย ซังม็อก รัฐมนตรีคลังและรักษาการประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ สั่งการให้คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พิจารณาทบทวนมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (non-tariff barriers) และมาตรการอื่นๆ เพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีประกาศเมื่อวานนี้ (13 ก.พ.68) เรื่องการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าในอัตราเท่ากับทุกประเทศทั่วโลกเช่น เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่นและกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)



          นายชอย กล่าวว่า ผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้มากนัก เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าอยู่ในอัตราที่ต่ำอยู่แล้ว ตามข้อตกลงการค้าเสรีเกาหลีใต้-สหรัฐฯที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน แต่เนื่องจากรัฐบาลทรัมป์ประกาศจะทบทวนเรื่องมาตรการอื่นๆด้วยเช่น มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT และภาษีสำหรับบริการดิจิทัล จึงมีความจำเป็นที่เกาหลีใต้ต้องเฝ้าระวังเรื่องนี้เช่นเดียวกัน



          ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศคู่ค้า 15 อันดับแรกของสหรัฐฯ อัตราภาษีนำเข้าของเกาหลีใต้ มีอัตราสูงในลำดับที่ 2 รองจากอินเดีย แต่ในการบังคับใช้จริงแทบจะไม่มีการเรียกเก็บภาษี เนื่องจากข้อตกลงการค้าของสองประเทศ ซึ่งฉบับแรกมีการลงนามในปี 2550 และฉบับที่ 2 มีการลงนามในยุคที่นายทรัมป์บริหารประเทศสมัยแรกในปี 2561 ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ของเกาหลีใต้ เชื่อว่า ข้อตกลงการค้าเสรีจะช่วยลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของรัฐบาลทรัมป์ได้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นของเกาหลีใต้ปรับขึ้นเกือบร้อยละ 3 ในสัปดาห์นี้ เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2567



          ในปัจจุบัน เกาหลีใต้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเฉลี่ยในอัตราร้อยละ 0.79 คาดว่าอาจจะมีการปรับลดต่ำลงอีกในปีนี้ โดยเฉพาะสินค้าในหมวดอุตสาหกรรม





#เกาหลีใต้



 

ข่าวทั้งหมด

X