*ผู้ว่ากปน.ชี้แจงมาตรการรับมือภัยแล้ง น้ำดื่มอาจกร่อยบ้าง*

การติดตามตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำดิบและคุณภาพน้ำที่จะนำมาใช้ในการอุปโภค บริโภค ของการประปานครหลวง ของนายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง หรือ กปน. ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์น้ำที่นำมาผลิตน้ำประปา บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พร้อมทั้งเปิดเผยว่า จากติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำใน 3เขื่อนหลักที่การประปานครหลวงนำมาผลิตน้ำ คือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ,เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ,และเขื่อนสิริกิต์ จังหวัดอุตรดิตถ์  ขณะนี้ปริมาณน้ำอยู่ที่ 900ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ทุกวันทั้ง 3 เขื่อนปล่อยน้ำลงมาวันละ 30ล้านลูกบาศก์เมตร/ต่อวัน การประปานครหลวง นำมาผลิตน้ำใช้ 3.6ล้านลูกบาศก์เมตร/ต่อวัน ซึ่งดูจากตัวเลขน้ำขณะนี้ภาพรวมจะสามารถใช้ได้อีกประมาณ 30วัน  การประปานครหลวง ติดตามเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อรับมือ ว่าฝนจะตกลงมาเติมน้ำดิบในเขื่อนเพิ่มเติมหรือไม่ แต่ถ้าฝนยังไม่ตกภายใน 15 วัน

การประปานครหลวงจะเริ่มลดกำลังการผลิตน้ำตามสถานการณ์ ปัจจุบันการประปานครหลวง ได้ลดการจ่ายน้ำลงแล้วร้อยละ 10 พร้อมจะแจ้งเตือนประชาชนให้สำรองน้ำไว้ใช้บริโภค ถ้าครอบครัวหนึ่งประมาณ 3-4คน ให้สำรองน้ำไว้ใช้ 60ลิตรต่อครอบครัว แต่ถ้าภายใน 30วันฝนยังไม่ตก และปริมาณน้ำที่จะนำมาผลิตน้ำประปายังน้อยอยู่ การประปานครหลวง จะประสานกรมชลประทานขอน้ำดิบในเขื่อนของกรมชลประทาน ที่สำรองไว้ใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินนำมาใช้ เพื่อรอฝนตกลงมา แต่ถ้าสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติก็จะนำน้ำจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนแม่กลอง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ยังคงมีใช้เพียงพอ นำมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชน โดยจะส่งรถน้ำของการประปา ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามบ้านเรื่อนเพื่อให้นำไปใช้ในการบริโภค ส่วนน้ำที่ใช้อุปโภค ก็อาจจะมีรสกร่อยได้ในช่วงนี้  เนื่องจากปริมาณน้ำที่นำมาผลิตน้ำประปาลดลง และ มีความน้ำเค็มหนุน  แต่ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับสถานการณ์ ขอให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยเช่นกัน

ส่วนการเฝ้าระวังผลกระทบจากปัญหาน้ำทะเลหนุน ว่าจะส่งผลกระทบทำให้คุณภาพน้ำอาจจะมีความเค็มหรือไม่ ผู้ว่าการการประปานครหลวง เปิดเผยว่า ปกติระดับความเค็มมาตรฐานที่ทางการประปานครหลวงควบคุม จะพยายามทำให้ไม่เกิน 0.25กรัม/ลิตร แต่บางช่วงเวลาน้ำทะเลหนุนสูงก็อาจทำให้ค่าความเค็มของน้ำดิบในแม่น้ำสูงเกินค่ามาตราฐานไปบ้าง ซึ่งอยู่ในระยะเวลาไม่เกิน 3-4ชั่วโมง ค่าความเค็มก็จะลดไปเอง แต่ในส่วนการรับมือถ้าระหว่างที่ค่าความเค็มสูงขึ้น การประปานครหลวง ก็จะปิดระบบไม่ดูดน้ำดิบจากแหล่งน้ำธรรมชาติเข้ามาใช้ และเมื่อคุณภาพน้ำดิบในธรรมชาติไม่เกินค่ามาตรฐานก็จะดูดน้ำมาใช้ตามเดิม 

จากการที่วัดระดับความเค็มเมื่อเช้านี้ ค่าความเค็มเฉลี่ยอยู่ที่ 0.19กรัม/ลิตร และล่าสุดที่มาวัดที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล ในอ.เมือง จ.ปทุมธานี เวลานี้ค่าความเค็มอยู่ที่ 0.13กรัมต่อลิตร ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเรื่องการควบคุณคุณภาพระดับค่าความเค็มของการประปานครหลวงไม่น่ากังวล

อย่างไรก็ดีการบริหาร และขยายแผนปรับปรุงโครงการขยายกำลังการผลิตของการประปานครหลวง ครั้งที่9 ที่จะมีขึ้นในปี 2559-2565 ที่จะมีการก่อสร้างโรงงานผลิต สถานนีสูบน้ำ หรือสถานนีเก็บน้ำของการประปานครหลวงเพิ่มขึ้น เพื่อความมั่นคงทางด้านการผลิตน้ำประปา ให้มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ที่ต้องให้เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น อาจะทำให้การประปาต้องปรับขึ้นค่าประปาอีก 1บาท ถึง 1บาท 50สตางค์ อาจจะเริ่มในปี 2560-2561 เพื่อนำมาเป็นงบประมาณในการดำเนินการ แต่เรื่องการปรับขึ้นค่าน้ำ การประปานครหลวงไม่ได้ขึ้นอัตราค่าใช้น้ำมานานกว่า 10ปี จึงอาจจะมีการปรับขึ้นบ้าง แต่อย่างไรแผนการนี้ จะต้องผ่านการพิจารณาเพื่อศึกษาอีกครั้ง แต่ถ้ามีความชัดเจนอย่างไรก็จะแจ้งให้ทราบต่อไป  หากประชาชนต้องการที่จะตรวจสอบคุณภาพน้ำออนไลน์ได้ด้วยตัวเองสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็ปไซด์ http:/twqonline.mwa.co.th ได้ตลอด 24ชั่งโมง

ผู้สื่อข่าว : วิรวินท์ ศรีโหมด