ผลการปฏิบัติการวันแรกของกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานต่อ ปภ.ช.ว่า ได้สั่งปิดอุทยานแห่งชาติในช่วงประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เพื่อสกัดกั้นการเข้าไปเก็บหาของป่า รวมทั้งการลักลอบล่าสัตว์และเผาป่าซึ่งมักจะกลายเป็นไฟป่าที่ลุกลามเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดจุดความร้อนและฝุ่นควันฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง โดยเบื้องต้นมีอุทยานฯที่ประกาศปิดป่า ดังนี้
1. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 เม.ย.68)
2. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 พ.ค.68)
3. อุทยานแห่งชาติภูผายล อุทยานแห่งชาติภูพาน อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กและวนอุทยานภูผาแด่น จ.สกลนคร (ตั้งแต่20 ม.ค.–30 พ.ค. 2568)
ทั้งนี้ ปภ.ช.ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด กรณีฝ่าฝืนเข้าไปในเขตอุทยานฯที่ประกาศปิด มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และหากพบว่าเข้าไปมีส่วนกับการลักลอบเผาป่าต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 4แสน บาท ถึง 2ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการเผาในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 จะมีโทษที่รุนแรงมากขึ้น
สำหรับ รายงานกรมควบคุมมลพิษ ถึงสถานการณ์ฝุ่น Pm2.5 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ณ เวลา 07.00 น. สถานการณ์ดีขึ้น พบสีแดงเพียงจุดเดียวที่จังหวัดสระบุรีมีค่า 76.2 มคก./ลบ.ม ขณะที่ สมุทรปราการ เริ่มกลับเข้าสู่ค่ามาตรฐาน แต่ในพื้นที่ภาคตะวันออก ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า มีจุดความร้อนอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก ส่วนภาคเหนือตอนล่างสถานการณ์ฝุ่นค่อนข้างสูง ที่จังหวัดสุโขทัยและพิษณุโลก ส่วนภาคเหนือตอนบนฝั่งตะวันตก คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่สถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่ ภาคใต้ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานยกเว้นจังหวัดชุมพรที่ยังเกินค่ามาตรฐาน
#เผาป่า
#ฝุ่นPMสองจุดห้า