ที่ประชุมครม.เห็นชอบแก้กม.เวณคืนที่ดิน ตามที่ก.คมนาคมเสนอ

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้เสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ. ว่าด้วยการเวรคืนอสังหาริมทรัพย์ ปรับแก้กฏหมายเกี่ยวกับการเวณคืนที่ดิน ซึ่งฉบับเดิมปี 2530 มีบทบัญญัติที่ไม่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ดินที่ถูกเวรคืน และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่อยู่ในที่ดินนั้นได้รับผลกระทบ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ   กระทรวงคมนาคมจึงได้เสนอให้มีการปรับแก้กฏหมายฉบับใหม่ เพิ่มเติม 4 ประเด็น คือ เมื่อมีที่ดินเหลือใช้จากการเวรคืนตามวัตถุประสงค์ของการเวรคืนแล้ว สามารถนำที่ดินที่เหลือไปใช้ทำประโยชน์เพื่อสังคม หรือนำไปใช้ประโยชน์ในทางรัฐสวัสดิการได้ เพื่อเป็นการใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่า, ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับที่ดินที่ถูกเวรคืน แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน เช่น คนที่ทำการค้าขายในที่ดินนั้น รัฐจะต้องให้เงินช่วยเหลือเยียวยาด้วย, หากรัฐทำการเวณคืนที่ดินแล้ว ที่ดินของเจ้าของเดิมเหลือไม่เกิน 25 ตารางวา รัฐจะต้องทำการเวณคืนที่ดินทั้งหมด, หากผู้ถูกเวณคืนที่ดินไม่พอใจในการถูกเวณคืนที่ดิน จะต้องทำเรื่องร้องเรียนภายใน 120 วัน ขณะเดียวกันผู้ที่มีส่วนพิจารณาคำอุทธรณ์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว

กระทรวงพาณิชย์ได้มีการขอความเห็นชอบกรอบการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ในคณะกรรมการร่วมทางการค้าระหว่างไทยและมาเลเซีย ครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 - 29 เดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะของไทย ส่วนหัวหน้าคณะของประเทศมาเลเซียเป็นรัฐมนตรีการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม ส่วนหัวข้อในการประชุมจะพูดคุยในเรื่องเป้าหมายการค้าขายของไทยและมาเลเซียจะทำยอดให้ได้ประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2561 ขณะเดียวกันประเทศมาเลเซียเป็นผู้ค้าระดับ 4 ของโลก การดำเนินไปสู่เป้าหมายจึงเป็นไปได้ง่าย นอกจากนี้จะมีการผลักดันให้มีการส่งสินค้าจากไทยไปยังมาเลเซียผ่านเส้นทางทางถนนให้มากขึ้น พร้อมทั้งยังมีความร่วมมือในการส่งสินค้าชายแดนไทย - มาเลเซีย เพราะที่ผ่านมียอดถึง 60 เปอร์เซนต์ ของรายได้จากการค้าขายชายแดน อย่างไรก็ตามยังมีการผลักดันยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางพาราในรูปแบบใหม่  ทั้งในไทยและมาเลเซียไปสู่ตลาดโลก