ในการที่ รองศาสตราจารย์ พินิติ รตะนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวมอบนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมรับน้องและการประชุมเชียร์ในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งมีตัวแทนของอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยต่างๆเข้าร่วมการประชุม รองศาสตราจารย์ พินิติ กล่าวว่ามีแนวคิดว่าช่วงก่อนเปิดเทอมภาคที่ 1 ควรมีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนหรือรุ่นน้องในสามด้านกิจกรรมหลัก คือ การเพิ่มทักษะทางภาษาอังกฤษและภาษาเพื่อนบ้าน การปรับตัวให้เข้ากับสังคมและการสร้างความเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเพราะไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทักษะสามด้านนี้จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับแรงงานต่างประเทศได้ โดยต้องการให้เป็นโครงการระดับชาติที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยทุกแห่ง และเสริมลงไปในกิจกรรมรับน้อง เช่นเดียวกับกิจกรรมประชุมเชียร์ ก็ควรมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะเพื่อแข่งขันกับตลาดแรงงานอาเซียน
โดยในปีนี้สกอ. มีนโนบาย 4 ต้อง ในการจัดกิจกรรมรับน้องปีนี้ คือ ต้องสร้างกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค ต้องไม่กระทบต่อการเรียน ไม่มีเครื่องดื่มแอลกฮอลล์หรือสิ่งเสพติด และสุดท้ายคือต้องอยู่ในกำกับของรองอธิการบดีและอาจารย์ และไม่ขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบมหาวิทยาลัย
ทั้งนี้รองศาสตราจารย์พนิติย้ำว่า ในการรับน้องต้องไม่มีความรุนแรงและห้ามละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและห้ามบังคับให้เข้าร่วมกิจกรรม ตลอดจนต้องให้ผู้ปกครองมีสิทธิเข้าสังเกตกิจกรรมได้ ขณะที่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็ฝากย้ำให้จัดกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์และต้องเพิ่มทักษะในด้านต่างๆ ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนทางมหาวิทยาลัยจะต้องลงโทษตามกฎระเบียบ ซึ่งจะมีตั้งแต่ตักเตือนจนถึงไล่ออก
..ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร