จากปัญหาภัยแล้งรุนแรง นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นอกจากกระทรวงเกษตรฯได้กำชับให้กรมชลประทานบริหารจัดสรรน้ำต้นทุนที่มีจำกัดอย่างรัดกุม และให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำที่เหลืออยู่อย่างรู้คุณค่าและโดยประหยัดแล้ว ยังมอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเน้นปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อน เพื่อให้มีปริมาณน้ำต้นทุนเพียงพอสำหรับการหล่อเลี้ยงพืชฤดูแล้งที่กำลังจะให้ผลผลิต และการเริ่มต้นเพาะปลูกข้าวนาปี ขณะนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 11 หน่วย ซึ่งกระจายครอบคลุม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้เร่งระดมทำฝนหลวงอย่างเต็มที่ โดยตั้งแต่เริ่มตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2558 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน มีผู้ร้องขอฝนหลวงผ่านศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคกว่า 320 ราย ใน 235 อำเภอ 58 จังหวัด และฝูงบินฝนหลวงได้มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 104 วัน 2,728 เที่ยวบิน มีฝนตก 103 วัน และมีรายงานฝนตกรวม 70 จังหวัด
นายวราวุธ ขันติยานันท์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวถึงแผนปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำว่า กรมฝนหลวงฯได้ให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทุกหน่วยเร่งทำฝนหลวงเพื่อหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง พร้อมกับปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด โดยให้หน่วยฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่เร่งปฏิบัติการเติมน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำของเขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัด เขื่อนแม่กวง หน่วยฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลกรับผิดชอบพื้นที่ลุ่มรับน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรีรับผิดชอบเติมน้ำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนทับเสลา และหน่วยฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรีให้เร่งเติมน้ำให้เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนท่าทุ่งนา
หน่วยฝนหลวงขอนแก่นรับผิดชอบเขื่อนอุบลรัตน์ หน่วยฝนหลวงนครราชสีมารับผิดชอบเติมน้ำให้เขื่อนลำตะคอง ลำพระเพลิง จุฬาภรณ์ หน่วยฝนหลวงอุบลราชธานีรับผิดชอบเติมน้ำให้เขื่อนสิรินธร
สำหรับหน่วยฝนหลวงจังหวัดระยองให้เร่งปฏิบัติการเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่ง อาทิ อ่างเก็บน้ำดอกกราย หนองปลาไหล ประแสร์ และอ่างเก็บน้ำบางพระ
ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้ปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน และอ่างเก็บน้ำปราณบุรี
สถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส เมื่อวานนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดประชุมสัมมนา ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน และคลินิก ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อชี้แจงแนวทางการวินิจฉัย การเฝ้าระวัง และการส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งนพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงในการติดเชื้อ จึงต้องมีมาตรการป้องกันสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ประสานงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสอดคล้องกับองค์กรอนามัยโรค จัดตั้งศูนย์การแพทย์สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม กรณีที่พบผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ติดเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำส่งสถาบันบำราศนราดูรทุกราย เพราะบางรายสามารถรักษาได้ในโรงพยาบาลต้นทาง โดยแยกผู้ป่วยไปยังพื้นที่เฉพาะที่จัดไว้ โดยย้ำว่า หากพบผู้มีอาการในเบื้องต้นห้ามส่งคนไข้ หรือปัดคนไข้โดยพลการ หรือไล่คนไข้ไปรักษาที่อื่น หากเจอผู้ต้องสงสัยต้องโทรฯรายงาน 1422 ก่อนว่าจะทำอย่างไร หากส่งต่อผู้ป่วยไปที่อื่นโดยพลการ หรือพบแล้วไม่แจ้งจะมีความผิดต้องถูกจับปรับและจำคุก รวมทั้งสามารถปิดคลินิกสถานพยาบาลได้ทันที ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2523 และพ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กล่าวว่า จะมีการประเมินความเสี่ยงการควบคุมโรคจาก 5 ประเทศอย่างเข้มงวด คือ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน โอมาน เกาหลีใต้ โดยเมอร์สมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ ไอ เจ็บคอ ระยะฟักตัวยาวสุด 14 วัน ซึ่งร้อยละ 10 จะมีอาการท้องเสียร่วมด้วย สำหรับผู้ที่ไปต่างประเทศอย่าขี่อูฐ ไม่ดื่มนมอูฐ หลีกเลี่ยงการไปสถานพยาบาลในประเทศที่มีการแพร่ระบาด และยอมรับว่าการคัดกรองผู้ป่วยที่ท่าอากาศยานมีประสิทธิภาพต่ำ เพราะคนไข้เพิ่งมีอาการอยู่ในระยะฟักตัว จึงยังไม่มีไข้ บางส่วนไม่ยอมเดินผ่านช่องสแกน หรือแอบกินยาลดไข้ก่อนลงเครื่อง เพราะไม่อยากเสียเวลา
ส่วนอาการของผู้ป่วยชาวโอมานดีขึ้นตามลำดับ แต่เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ จึงให้อยู่ในการวินิจฉัยของแพทย์ ส่วนอาการของญาติอีก 3 คนที่อยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศนราดูรนั้น สภาพร่างกายเป็นปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ และหากผลการตรวจเชื้ออีก 2 ครั้ง เป็นลบก็จะอนุญาตให้ออกจากสถาบันบำราศฯ ได้ในวันที่ 2 กรฎาคมนี้ ส่วนผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายแรกจำนวน 176 คนนั้น ล่าสุดเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว 13 คน ซึ่งกระทรวงก็ได้ประสานไปยังสถานทูตของแต่ละรายให้ติดตามคนของตัวเอง ดังนั้นจึงเหลือที่ต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ไทย 163 คน จนกว่าจะพ้นระยะฟักตัวของโรค 14 วัน ซึ่งตอนนี้ทุกคนอาการเป็นปกติ
ในที่ประชุมของกรุงเทพมหานคร มีการรายงานกรณีที่ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ประมาณ 1,000 คน ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมอบให้สำนักอนามัยเก็บข้อมูลผู้ที่จะเดินทาง ทั้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อติดตามอาการหลังเดินทางกลับมาจากการประกอบพิธีประมาณเดือนตุลาคมต่อเนื่อง 30 วัน รวมทั้งรณรงค์แจกแผ่นพับให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการป้องกันตัวเองก่อนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายวิทวัส ศรีวิหค รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า มีการกำชับหน่วยงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ให้เฝ้าระวังต่อไป และแม้ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางไปเกาหลีใต้ แต่ก็ขอให้ประชาชนทุกคนติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งปฏิบัติตนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และโรงเรียนทั่วประเทศ โดยจะให้แนวปฏิบัติแก่ครูเพื่อไปให้ถ่ายทอดกับเด็กในกรณีการป้องกันตัวเอง ซึ่งเด็กที่โตก็จะสามารถกลับไปให้คำแนะนำกับครอบครัวได้
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าการท่องเที่ยวไทยปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 28 ล้าน 8 แสนคน ซึ่งกรณีนี้ยังไม่ได้นำปัจจัยเรื่องโรคเมอร์ส และกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ขึ้นธงแดงเนื่องจากไม่สามารถแก้ไขมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ภายในกำหนดเวลา 90 วัน
ส่วนรายงานนโยบายการเงินเดือนมิถุนายน 2558 ที่คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ปีนี้จะอยู่ที่ระดับร้อยละ 3 ซึ่งเป็นการคำนวณตามวิธีการใหม่ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ใช้ ขณะที่ตัวเลขประมาณการเดิมที่ระดับร้อยละ 3.8 อยู่บนพื้นฐานของการคำนวณแบบเดิม ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับร้อยละ 4.1 สำหรับปัจจัยหลักที่ส่งผลให้มีการปรับลดจีดีพีในปีนี้นั้น มาจากทิศทางการส่งออกที่คาดว่าจะติดลบ
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แถลงยอดหนี้สาธารณะคงค้างประจำเดือนเมษายน 2558 ซึ่งเพิ่มขึ้นสุทธิ 4 หมื่น 5 พัน 1 ร้อยล้านบาทจากการกู้เงินชดเชยการขาดดุลงบประมาณ การกู้เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การเบิกจ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ ขณะที่ รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมีหนี้คงค้างเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินและการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อดำเนินกิจการต่างๆ ส่วนรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินมีหนี้คงค้างลดลง เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระหนี้เงินต้น และหน่วยงานของรัฐ มีหนี้คงค้างลดลงเนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย และสำนักงานธนานุเคราะห์ชำระหนี้เงินต้นเช่นกัน
ด้านการจัดทำข้าวถุงเพื่อผู้มีรายได้น้อย นางสาวนพพร ลิ้นทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจะมีการประชุมเพื่อสรุปแนวทางการทำงานในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ เบื้องต้นกระทรวงฯ จะเป็นผู้จัดหาข้าวขาวให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบรรจุถุงขนาด 1-2 กิโลกรัม จำหน่ายผ่านสหกรณ์ ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ร้อยละ 10-15 โดยในงวดแรกจะจัดทำ 1,500 ตัน จากปริมาณที่คาดว่าจะจัดทำทั้งหมด 5,000 ตัน และจะทำเป็นข้าวสารบรรจุถุงทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการควบคุม
ด้าน พล.ต.ต.ปวีน พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หัวหน้าชุดสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะนำสอบสวนเพื่อส่งให้อัยการจังหวัดนาทวี ในวันนี้ เพื่อส่งต่อไปให้อัยการสูงสุดพิจารณาภายในวันที่ 25 มิถุนายนตามกรอบที่ตั้งไว้ และหลังจากที่อัยการสูงสุดพิจารณาเสร็จแล้ว จะสั่งคดีส่งสำนวนกลับมาที่ศาลจังหวัดนาทวีภายในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยจะขอให้อัยการร้องศาลขอให้มีการสืบสวนพยานสำคัญบางปากล่วงหน้า เนื่องจากมีผู้ต้องหาและพยานหลักฐานต่างๆ เป็นจำนวนมาก และเชื่อมโยงกันหลายจังหวัด ทั้งสงขลา สตูล ระนอง และนครศรีธรรมราช รวมทั้งขอให้ศาลพิจารณาสืบพยานอย่างต่อเนื่องเพื่อจะพิจารณาพิพากษาโดยรวดเร็ว ทั้งนี้ ทางอธิบดีอัยการภาค 9 ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินคดีในชั้นศาลสำหรับคดีค้ามนุษย์ขึ้นมาโดยเฉพาะ และผู้ต้องหาทั้ง 56 จะส่งฟ้องพร้อมกันหมดตามความผิดและข้อหาที่แตกต่างกันไป
...