พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางไปกรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายนนี้ โดยมีวาระสำคัญคือติดตามความคืบหน้าความร่วมมือ 8 สาขาหลักของ ACMECS และแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือร่วมกันในอนาคตต่อไป พร้อมรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชนด้วย และมีเอกสารผลลัพธ์สำคัญของการประชุม 2 ฉบับ ประกอบด้วย ปฏิญญาการประชุมผู้นำ ACMECS และร่างปฏิญญากรุงเนปิดอว์การประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6 จะเป็นการกล่าวถึงการรับรองแผนปฏิบัติการ ACMECS ในปี 2559-2561 เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของผู้นำที่จะส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนาที่ยั่งยืน ความร่วมมือภายใต้กรอบ ACMECS นั้นสอดคล้องกับยุทธศาสตร์สำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งส่งเสริมให้ไทยจะเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคและอาเซียน สร้างความเข้มแข็งให้กับภูมิภาค โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
โดยช่วงเช้านี้นายกรัฐมนตรี จะร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6 และร่วมการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 6 ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกล่าวถ้อยแถลงของผู้นำในประเด็น “การทบทวนความร่วมมือในกรอบ ACMECS และทิศทางความร่วมมือในอนาคต” ซึ่งที่ประชุมจะรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม 2 ฉบับ
ช่วงเที่ยง นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระหว่างผู้นำ ACMECS และภาคเอกชน เมื่อการประชุมเสร็จสิ้นลง นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับถึงไทยในเวลา 16.00 น.
ในวันนี้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะมีการประชุม เกี่ยวกับการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม การปกครองบริหารท้องถิ่นการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปตำรวจ และอาจจะมีเรื่องการศึกษา
จากนั้นวันพรุ่งนี้ สปช. จะมีการสัมมนาเรื่อง "สานใจปฏิรูป สภาปฏิรูปแห่งชาติ" ซึ่งนายอลงกรณ์ พลบุตร ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการกิจการวิสามัญสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวว่าจะเป็นการพิจารณาผลการดำเนินงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมอง ประสบการณ์ และปัญหาอุปสรรค ทั้งจะมีการพูดถึงภารกิจของ สปช. 2 เรื่อง คือแผนแม่บทของสปช. และกรอบการทำงานระหว่างการรอร่างรัฐธรรมนูญส่งกลับมายัง สปช.ก่อนวันที่ 22 สิงหาคมนี้ จากนั้นก็จะต้องลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 7 กันยายน กับอีกเรื่องคือประเด็นรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับ สปช. จะเป็นกระบวนการของการทำหน้าที่ของ สปช.ที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ
สำหรับประเด็นสำคัญที่เน้นกันมาก คือ การทำงานของ สปช.ต่อจากนี้อีก 2 เดือน จะเป็นภารกิจที่สำคัญในการจัดทำแผนปฏิรูปประเทศ โดยจะต้องมีการบรรจุ 37 วาระปฏิรูป และ 6 วาระพัฒนา ไว้ในแผนปฏิรูปด้วย ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม จึงจำเป็นที่สมาชิกจะต้องมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพื่อให้การปฏิรูปปรากฏเป็นรูปธรรม ซึ่งจะมีวาระที่สำคัญเป็นหัวหอกในการปฏิรูป ได้แก่ การปฏิรูปปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น การปฏิรูปปัญหาการทุจริตการเลือกตั้ง การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และ การปฏิรูปปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม
ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้สำนักพุทธฯ นำแนวทางปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาของ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไปหารือร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และให้เสนอกลับมายังครม.ภายใน 30 วันนั้น ขณะนี้สำนักพุทธฯ ได้เสนอแผนการในการดำเนินงานปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนากลับมาแล้ว และคาดว่าจะสามารถเสนอได้ไม่เกินใน 2 สัปดาห์นี้
ส่วนที่ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ 83 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย และจะมีกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหว ซึ่งนายสุวพันธุ์ เชื่อว่าการเคลื่อนไหวจะอยู่ในกรอบ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์พิเศษ
ส่วนเรื่องการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินอากาศ พ.ศ.2497 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เป็นการปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ซึ่งตรวจพบข้อบกพร่องที่นัยสำคัญต่อความปลอดภัย (เอสเอสซี) ด้านการบินพลเรือนของไทย คาดว่าจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และขออนุมัติหลักการและเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จเดือนตุลาคม 2558
ส่วนแผนการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือนออกเป็น 4 หน่วยงาน คาดว่าจะเสนอที่ประชุมครม.ได้ในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ยังเตรียมแผนการปรับโครงสร้างไว้ 2 แนวทาง คือหากพ.ร.บ.เดินอากาศฉบับใหม่ ประกาศใช้ได้เร็วก็จะยกเลิกการใช้มาตรา 44 และใช้กฎหมายจาก พ.ร.บ.ใหม่ในการปรับโครงสร้าง แต่หากพ.ร.บ.การเดินอากาศฉบับใหม่ ยังไม่เสร็จก็จะอาศัยอำนาจจากมาตรา 44 ในการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือนไปถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ คาดว่าเดือนตุลาคมนี้ จะดำเนินการเสร็จ
โดยในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) จะประกาศท่าทีเกี่ยวกับการบินของไทย
ส่วนที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันนี้ วันที่ 29 และ 30 มิถุนายน จะเป็นวันที่อดีตคณะรัฐมนตรี 34 คนจะทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งมีเพียง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขอเลื่อนการรับทราบข้อกล่าวหากรณีดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2548
กำหนดนัดให้ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีดังกล่าวเข้ารายงานตัว มีดังนี้ วันอังคารที่ 23 มิถุนายน ได้แก่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีต รมช.คลัง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีต รมช.คลัง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธีระ วงศ์สมุทรา อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์
ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน ได้แก่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.คมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีต รมช.คมนาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมช.คมนาคม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ อดีต รมว.พลังงาน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นางนลินี ทวีสิน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต รมช.พาณิชย์ นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ อดีต รมช.มหาดไทย นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต รมช.มหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต รมว.ยุติธรรม นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีต รมว.แรงงาน นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม
*-*