เมืองไทยฯ(2):เกษตรฯหารือแผนช่วยเหนือเกษตรกร/คสรท.เตรียมชุมนุมปรับค่าจ้างขั้นต่ำ/ทปอ.ไม่ปรับเวลาการเปิด-ปิดภาคเรียน

จากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเมื่อวานนี้พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้การรับมือภัยธรรมชาติมีความซับซ้อน เนื่องจากบางพื้นที่ประสบภัยแล้ง แต่บางจุดเผชิญกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และน้ำป่าไหลหลาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมทั้งท้องถิ่น เตรียมรับสถานการณ์ทั้งน้ำแล้ง และน้ำหลาก โดยต้องปรับเปลี่ยนภารกิจได้ตามเหตุการณ์

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝนหลวง ที่มีการระดมฝูงบินจากภาคใต้ขึ้นไปช่วยภารกิจในภาคกลางและภาคเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นมาก แม้จะยังอยู่ในจุดวิกฤต แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และหากมีความต้องการการสนับสนุนด้านใดเพิ่มเติมจากรัฐบาล ให้ประสานตรงได้ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงสุด

ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่าในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ จะสามารถสรุปปัญหาการปลูกข้าว เพื่อแบ่งกลุ่มเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ และจะออกมาตรการช่วยเหลือให้ตรงจุดแต่ละกลุ่ม โดยพบว่ามีพื้นที่ที่ปลูกข้าวไปแล้วประมาณ 4 ล้านไร่ ที่กรมชลประทานต้องจัดสรรน้ำให้เกษตรกรเพื่อบรรเทาความเสียหาย ส่วนพื้นที่ที่ชะลอเพาะปลูกมีประมาณ 3 ล้านไร่ อยู่ระหว่างพูดคุยกับเกษตรกรว่าจะชะลอการปลูกข้าวต่อไป หรือเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ใช้น้ำน้อยแทน อาจต้องช่วยเหลือเรื่องพันธุ์พืช เรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและดอกเบี้ย

โดยในวันนี้ จะมีการหารือภายในกระทรวงเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ต่อไป ทั้งนี้มาตรการช่วยเหลือจะเน้นด้านการเพาะปลูก ส่วนการช่วยเป็นตัวเงินนั้นยังไม่ถึงเวลาเพราะยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น

เช้าวันที่ 25 มิถุนายนนี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)จะร่วมกับเครือข่ายแรงงานทั่วประเทศชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า และประกาศจุดยืนขอให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอัตราเท่ากันทุกจังหวัด จากนั้นจะไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล

มาที่ข่าวอาชญากรรมที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปปิดสำนวนคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน และส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดี ซึ่งจากการสรุปยอดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ 2,432 คน มูลค่าความเสียหาย 338,331,889 บาท  พยานบุคคลกว่า 200 ปาก ออกหมายจับผู้ต้องหามากกว่า 154 หมายจับ มูลค่าทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่อายัดได้จากผู้ต้องหารวม 830 ล้านบาท สำหรับฐานความผิด มีการตั้งข้อหาทั้งหมด 8 ข้อกล่าวหา คือ มีการร่วมกันกู้ยืมเงินเป็นการฉ้อโกงประชาชน , ฉ้อโกงประชาชน , ชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายและตกลงมีผลตอบแทน , กำหนดผลตอบแทนเป็นหน่วยลงทุนโดยการโฆษณาชวนเชื่อ ในผลตอบแทนไม่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ , กำหนดหน่วยลงทุนคล้ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่จดแจ้ง ธปท.ตามประกาศ ฉบับที่ 58 กระทรวงการคลัง 2547 , นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ , พ.ร.บ.ฟอกเงิน และ สุดท้ายคือมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ  แต่การตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาจะต้องดูพฤติการณ์เป็นรายบุคคลไป

และในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะแถลงสรุปสำนวนคดีอีกครั้ง

ข่าวอาชญากรรมที่ยังต้องติดตามต่อในวันนี้ ยังมีเหตุคนร้าย 2 คนที่ใช้อาวุธปืนจี้รถขนเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาเทสโก้โลตัส ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน และพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บช.น. ชุดสืบสวน สน.ปทุมวัน ชุดสืบสวน บก.น.6 เร่งติดตามรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในวันนี้จะมีการประชุมชุดสืบสวน

มาที่เรื่องการศึกษา กรณีที่มีผู้เสนอให้สถาบันอุดมศึกษาทบทวนการเปิด-ปิดภาคเรียนตามประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งภาคเรียนที่ 1 เปิดตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงธันวาคม ภาคเรียนที่ 2 เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม และปิดภาคเรียนเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม เพราะไม่สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย ศ.ดร.ประสาท สืบค้า ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมอธิการบดี มีมติยืนยันมติการเปิดและปิดในช่วงเวลาที่สอดคล้องกับสากล และ เป็นประโยชน์ในด้านการแลกเปลี่ยน นิสิต นักศึกษา และอาจารย์ พร้อมทั้งมอบให้สถาบันอุดมศึกษา ที่เป็นสมาชิก ทปอ.สำรวจข้อดี-ข้อเสีย ของการปรับเวลาการเปิด- ปิด ภาคเรียนในปี 2557 ขณะเดียวกัน ทปอ. จะทำวิจัย โดยการสอบถามความคิดเห็นจากนิสิต นักศึกษา อาจารย์ นักเรียน และผู้ปกครองด้วย

ส่วนความล่าช้าของกระบวนการพิจารณาเสนอแต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นั้น ทปอ.มีจุดยืนชัดเจนที่จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการสรรหา หรือ แต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เพราะเป็นเรื่องภายในที่มหาวิทยาลัย

และปัญหาการบริหารงานภายในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) สร้างความเสียหายแก่องค์กร ยังปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีหนังสือเรียนสูญหายจากคลังเก็บหนังสือขององค์การ สกสค.ตั้งแต่ปี 2556-2557 จำนวน 1,178,764 เล่ม คิดเป็นเงิน 68,597,656 บาท ซึ่งนายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบ และ นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ. กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าหนังสือที่สูญหายเป็นหนังสือเรียน 3 วิชา คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาไทย

*-*