เมืองไทยฯ(1):นายกรัฐมนตรีประชุมACMECS/สาธารณสุขและการท่องเที่ยวพร้อมเฝ้าระวังและควบคุมเมอร์ส/สปช.เลื่อนประชุมเป็นพรุ่งนี้ .

สถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือไวรัสเมอร์สในประเทศไทย เมื่อวานนี้ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปติดตามมาตรการป้องกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งนพ.รัชตะ กล่าวว่า มาตรการเฝ้าระวังป้องกันของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นไปตามมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ ส่วนอาการของผู้ป่วยชายชาวโอมาน ยังอยู่ในห้องแยกโรคของสถาบันบำราศนราดูร โดยมีอาการดีขึ้น ส่วนญาติอีก 3 คน ยืนยันผลการตรวจวิเคราะห์สารคัดหลั่งทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันว่าไม่พบเชื้อทั้งหมด แต่ยังต้องคอยเก็บเชื้อส่งตรวจเป็นระยะจนกว่าจะครบกำหนดช่วงติดตาม 14 วัน

การติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยรายแรก 176 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในการดูแลของ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ส่วนผู้ที่เดินทางจากตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้เข้ามาในประเทศ มีไข้และมาแสดงตัวเพื่อรับการตรวจหาเชื้อ ล่าสุดถึงวันที่ 21 มิถุนายน มีทั้งสิ้น 44 ราย ทั้งหมดผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ

ส่วนการที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำเฟซบุ๊กชื่อ ไทยสู้เมอร์ส เพื่อให้ความรู้และแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ แต่กลับมีการเชื่อมต่อไปยังเว็ปโป๊ ทางกรมควบคุมโรคติดต่อระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำ และเตรียมแจ้งทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ด้านกระทรวงการต่างประเทศ มอบให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทำความเข้าใจกับนานาประเทศตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี เกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลไทยที่เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันโรค

และในวันนี้ นางกอบกาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะประชุมร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ไวรัสเมอร์สที่พบในประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขจะแถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรค

มาที่กรณีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ปักธงแดงประเทศไทยบนหน้าเว็บไซต์ของไอเคโอ เพื่อประกาศให้สาธารณะรับทราบเกี่ยวกับการคงสถานะข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (เอสเอสซี) ด้านการบินของกรมการบินพลเรือน (บพ.) หลังครบกำหนด 90 วัน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ซึ่งนายวรเดช หาญประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้จัดทำแผนการปรับโครงสร้างใหม่ของกรมการบินพลเรือน (บพ.) ใหม่ ตามแนวทางการแก้ไขปัญหามาตรฐานเอสเอสซี ของไอเคโอเสร็จแล้ว จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบวันที่ 23 มิถุนายนนี้ พร้อมกับขอให้นายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว เร่งการปรับโครงสร้างให้เสร็จโดยเร็ว โดยจะแยกเป็น 4 องค์กร คือ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ทำหน้าที่กำกับดูแลธุรกิจการบินทั้งสายการบินและสนามบิน สังกัดสำนักนายกฯ กรมการท่าอากาศยาน สังกัดกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่บริหารสนามบินของกรมการบินพลเรือนเดิม 28 แห่ง อีก 2 หน่วยงานได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของเรือและอากาศยานที่ประสบภัย และสำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยหรือผู้รอดชีวิต

ส่วนจัดทำร่าง พ.ร.บ. การเดินอากาศ จะนัดหารือในวันนี้โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน เพื่อตรวจสอบรายละเอียดเนื้อหาของกฎหมายอีกครั้ง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี

นอกจากนี้จะต้องเร่งจัดเตรียมข้อมูล เพื่อรองรับตัวแทนสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) และองค์การการบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) จะมาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทยเพิ่มเติมวันที่ 13-19 กรกฎาคมด้วย ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวไม่ได้เป็นห่วงการเดินทางท่องเที่ยวของต่างชาติที่เข้ามาไทย เพราะจะใช้บริการของสายการบินสัญชาติอื่น แต่ปัญหาคือสายการบินที่จะพานักท่องเที่ยวไทยออกไปประเทศปลายทางอาจมีปัญหา และจะทำให้เสียตลาด ซึ่งการแย่งตลาดกลับมาจะเป็นเรื่องยาก

ส่วนนายเทียนฉาย กีระนันท์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ แจ้งงดการประชุมในวันนี้ และนัดประชุมครั้งต่อไปในวันพรุ่งนี้ โดยในวันที่ 24 มิถุนายนจะมีการประชุมภายในเพื่อประมวลเรื่องปฏิรูปสำคัญๆ 5-6 เรื่องจาก 37 เรื่อง ขจากนั้นจะมีการแถลงต่อสาธารณชนเพื่อขอให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนการปฏิรูป

ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เชิญนักวิชาการและนักการเมือง อาทิ นาย ธีรยุทธ บุญมี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาหารือเพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูป ซึ่งเป็นการขอความเห็นเป็นครั้งที่ 3 ในรูปแบบรายบุคคล ใช้เวลาคนละประมาณ 1 ชั่วโมง ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี จากนั้นจะนำข้อสรุปนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ส่วนวาระการทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ในวันนี้ มีกำหนดเข้าร่วมประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยาและแม่น้ำโขง (ACMECS) ครั้งที่ 6 ณ กรุงเนย์ปิดอว์ ประเทศเมียนมา ระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายนนี้

..