ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนของสหรัฐฯว่า เหลืออีกไม่กี่วัน ก่อนส่งมอบอำนาจให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าบริหารประเทศสมัยที่ 2 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐฯได้ติดต่อพูดคุยกับพันธมิตรยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้กลุ่มอียู ยึดทรัพย์สินจากธนาคารกลางของรัสเซียราว 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ถูกอายัดไว้ในธนาคารต่างๆของกลุ่มอียูนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน หวังกดดันรัสเซียให้ยอมเจรจากับยูเครน เพื่อยุติสงคราม
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไบเดน พยายามโน้มน้าวให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกลุ่มอียูให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเงินทุนรัสเซียที่ถูกธนาคารต่างๆของกลุ่มอียู อายัดไว้มายังบัญชีธนาคารเปิดใหม่ โดยมีสหรัฐฯและกลุ่มอียู ร่วมดูแลบัญชีธนาคาร พร้อมตั้งเงื่อนไขว่า สหรัฐฯและกลุ่มอียู จะยอมคืนให้กับรัสเซีย ก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมเข้าร่วมการเจรจากับยูเครนเพื่อยุติสงครามในอนาคต
ทั้งนี้ ทรัพย์สินรัสเซียส่วนใหญ่ อยู่ในธนาคารต่างๆในกลุ่มอียู และมีทรัพย์สินเพียงส่วนน้อยที่ถูกอายัดไว้ในสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลนายไบเดนได้หารืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลใหม่ของนายทรัมป์ เช่น นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่และนายไมค์ วอลท์ซ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่ในรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งแหล่งข่าว เปิดเผยว่า คณะทำงานของนายทรัมป์เห็นด้วยกับเรื่องการยึดทรัพย์สินจากรัสเซีย เชื่อว่า มาตรการนี้จะสร้างแรงจูงใจให้รัสเซียเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพกับยูเครนในอนาคต สอดคล้องกับความประสงค์ของนายทรัมป์ที่อยากให้สงครามยุติลงโดยเร็วหลังยืดเยื้อมากว่า 3 ปีแล้ว แต่พันธมิตรชาวยุโรป คัดค้าน หวั่นเกรงละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศในกรณียึดทรัพย์สินรัสเซียและเชื่อว่า การทำข้อตกลงเช่นนี้จะไม่ได้ข้อยุติ ก่อนนายทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ เคยมีการทำข้อตกลงในลักษณะนี้ แต่ไม่ใช่การยึดทรัพย์สินรัสเซียโดยตรงคือ กลุ่ม G7 ที่ประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษและสหรัฐฯเห็นพ้องกันเมื่อปีที่แล้วให้นำเอาเฉพาะดอกเบี้ยเงินฝากรายปี ราว 50,000 ล้านดอลลาร์ที่ธนาคารต่างๆในกลุ่มอียูและสหรัฐฯต้องจ่ายตอบแทนผู้ฝากคือ ธนาคารกลางรัสเซีย มาทำประโยชน์ เช่น การปล่อยกู้ให้กับยูเครน พร้อมกำหนดระยะเวลากว่า 10 ปีในการให้ยูเครนคืนเงินต้นให้กับธนาคารต่างๆในยุโรป
ขณะที่ นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินของรัสเซีย วิจารณ์เรื่องนี้ว่า เป็นเสมือนการปล้นเงินฝากรัสเซียจากธนาคารต่างๆในยุโรป ทั้งคัดค้านเรื่องการยึดและอายัดทรัพย์สินรัสเซีย มาตั้งแต่แรกว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งละเมิดธรรมเนียมปฏิบัติและกฏกติการะหว่างประเทศทั้งหมด
#สหรัฐฯ
#หารือกลุ่มอียู
#ยึดทรัพย์รัสเซีย
#สันติภาพยูเครน