การเตรียมความพร้อมการจัดทำประชามติของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ในฐานะผู้จัดทำประชามติ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า หลังจากที่กกต.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสี่ชุดเพื่อจัดการเรื่องต่างๆแล้ว การทำงานแต่ละชุดมีความคืบหน้าไปมาก คณะกรรมการยกร่างประกาศและระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวีธีการว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะเป็นหน่วยหลักที่ทำการยกร่างกฎระเบียบการทำประชามติ เบื้องต้นมีตุ๊กตากำหนดระเบียบไว้แล้วเช่น จะมีหน่วยจัดออกเสียงประชามติประมาณ 96,000หน่วย แต่ละหน่วยจะมีกรรมการประจำหน่วย 7 คน
ทั้งนี้ ระเบียบการจัดทำประชามติจะยึดร่างของคณะกรรมการเป็นหลัก โดยกกต.จะนำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 มาบังคับใช้ในบางมาตราเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการบังคับใช้ในเรื่องการกำหนดบทลงโทษและการทำความผิด เมื่อยกร่างระเบียบการทำประชามติแล้วเสร็จต้องส่งเรื่องไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจรอให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.)ก่อน กกต.จึงส่งร่างดังกล่าวไป เพราะหากสปช.ไม่รับร่างการทำประชามติก็จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน
ส่วนเรื่องงบประมาณในการทำประชามติที่ก่อนหน้านี้คาดว่าใช้งบ 2,600 ล้านบาท นายภุชงค์ กล่าวว่า คำนวณใหม่พบว่าอาจต้องใช้งบประมาณมากกว่า 3 ,000ล้านบาท เนื่องจากต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนกว่า 24 ล้านครัวเรือน สัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ส่วนการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญแจกให้ประชาชน ตามกฎหมายกำหนดให้กกต.ต้องส่งร่างถึงมือประชาชนให้ได้ร้อยละ 80 จากครัวเรือนที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติทั้งหมดหรือต้องส่งให้ได้ประมาณ19 ล้านครัวเรือนภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 นี้ ซึ่งถ้าส่งไม่ทันจะมีผลให้การทำประชามติยุติทันที มั่นใจว่า จะส่งร่างรัฐธรรมนูญถึงมือประชาชนครบแน่นอน เพราะได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว นายภุชงค์ กล่าวถึงการส่งร่างรัฐธรรมนูญในรูปแบบครัวเรือนแทนรายบุคคลว่า การส่งร่างรัฐธรรมนูญรายครัวเรือนช่วยประหยัดงบประมาณได้มากกว่าและหากส่งให้บุคคลต้องส่งถึง 49 ล้านฉบับ มองว่าไม่ทำให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร
CR:แฟ้มภาพ