พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 และแถลงข้อมูลช่วง10 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ถึง 5 ม.ค. 2568 นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 261 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 267 คน ผู้เสียชีวิต 32 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว รองลงมาดื่มแล้วขับ และตัดหน้ากระชั้นชิด
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ลำปาง รองลงมาคือ นนทบุรี และแพร่ จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุดคือ ลำปาง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นนทบุรี รองลงมาคือ กาญจนบุรี และอุดรธานี ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27-30 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,134 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,109 คน ผู้เสียชีวิตรวม 175 ราย
ที่ประชุม กำชับถึงความห่วงใย โดยเฉพาะวันขึ้นปีใหม่ คือ วันนี้และวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค. 67-1 ม.ค. 68) ในช่วงที่มีการเฉลิมฉลองของประชาชน กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด ทั้งในส่วนของจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย คงต้องเข้มข้นในการดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่นี้ ขณะที่ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเน้นย้ำว่า สำหรับคืนนี้ (31 ธ.ค. 67) ซึ่งเป็นคืนวันเคาท์ดาวน์ ได้สั่งการให้สถานีตำรวจลงไปในพื้นที่ที่มีการจัดงาน ต้องการควบคุมไม่ให้ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินขนาดใช้รถในการเดินทางออกจากพื้นที่และกลับบ้าน โดยวันนี้จัดให้ตำรวจเข้าไปในพื้นที่ทั้งสถานบริการและสถานที่จัดงานทั้งหมด และไปป้องกันตั้งแต่จะขับรถกลับบ้าน
ส่วนอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ที่มาจากการไม่สวมหมวกกันน็อกจะเพิ่มความเข้มเรื่องจุดจับเป็นจุดแจก นำหมวกกันน็อกไปลงในพื้นที่เพื่อให้เยาวชนหรือคนที่อายุน้อยแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ได้สวมหมวกกันน็อก เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทั้งนี้ คิดว่าหากทุกส่วนราชการได้ร่วมมือกันตามแนวทางที่กำหนดไว้คิดว่าน่าจะควบคุมอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
#ปีใหม่2025
#อุบัติเหตุทางถนน