รพ.บำรุงราษฎร์แจงผู้ติดเชื้อเมอร์สรักษาอาการเหนื่อยหอบพักงานจนท.ยังไม่มีอาการ

19 มิถุนายน 2558, 15:57น.


หลังจากที่ชายชาวโอมานอายุ 75 ปี ได้ป่วยเป็นโรคเมอร์สคนแรกของประเทศไทยและมีการสงสัยว่าได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท   วันนี้ คณะแพทย์โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นำโดยศาสตราจารย์นายแพทย์ ชาญวิทย์ ตันติ์พิพัฒน์ รองประธานกรรมการโรงพยาบาล ยอมรับว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จริง โดยเข้ามาเมื่อเวลา 21.45น.ของวันที่ 15 มิถุนายน 2558 จากอาการ ที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ไอ หอบ  ไม่ใช่การติดต่อมาล่วงหน้า โรงพยาบาลจึงให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากทางการแพทย์โดยเฉพาและส่งตรวจห้องปฎิบัติการทางการแพทย์ถึงสี่ครั้ง จึงได้วินิจฉัยว่าผู้ป่วยมีอาการเสี่ยงที่จะเป็นโรคเมอร์ส และอาจเป็นโรคปอดอักเสบและโรคหัวใจวายร่วมด้วย  จึงได้ต่อรองกับผู้ป่วยอยู่ช่วงหนึ่งให้ผู้ป่วยย้ายไปยังห้องแยกความดันลบ สำหรับผู้ติดเชื้อรุนแรง ซึ่งช่วงแรกผู้ป่วยไม่ยินยอม จากนั้นโรงพยาบาลจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่แพทย์จากสาธารณสุขก่อนที่จะมารับตัวผู้ป่วยไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน  โดยในวันแรกที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ ยังไม่มีไข้  แต่ต่อมา มีไข้เมื่อประมาณวันที่ 16-17 มิถุนายนด้วยอุณหภูมิ 38 องศา ยืนยันว่าช่วงที่ผู้ป่วยเดินทางมาไม่ได้สัมผัสใกล้กับผู้ป่วยอื่น มีสัมผัสกับเจ้าหน้าที่ พยาบาลและแพทย์เท่านั้น ซี่งขณะนี้โรงพยาบาลได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ที่สัมผัสกับผู้ป่วยทั้งหมดประมาณ 58 คนเป็นเวลา 14 วันแล้วและได้ตามอาการใกล้ชิด เบื้องต้นถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่หรือแพทย์คนใดมีอาการป่วย ส่วนที่มีการย้ายผู้ป่วยชั้น 10 ตามข่าวก่อนหน้านี้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อและผู้ป่วยโรคเมอร์ส



ด้านนายแพทย์ ก่อพงศ์ รุกขพันธ์ ผู้อำนวยการด้านปฎิบัติการและผู้อำนวยการด้านคุณภาพ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมีมาตรการคัดกรองผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่เข้ามาโดยจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและถามอาการเสี่ยง ซึ่งหากพบอาการเข้าข่ายจะแยกไปยังบริเวณเฉพาะโดยมีแพทย์พิเศษพร้อมระบบระบายอากาศและกั้นออกจากผู้ป่วยปกติ โดยยืนยันว่าโรงพยาบาลมีการคัดกรองผู้ป่วยด้วยมาตรฐานสากลตั้งแต่ปี 2555แต่ก็ยอมรับว่าไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีรายที่สองหรือไม่ เพราะโรงพยาบาลปฎิเสธผู้ป่วยที่วอล์กอินไม่ได้ ส่วนผู้ป่วยรายอื่นยังไม่มีใครประสงค์ย้ายออกและเชื่อว่าทุกคนยังมั่นใจโรงพยาบาล ทั้งนี้โรงพยาบาลจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุขหากเกิดเหตุฉุกเฉินเพื่อมิให้เกิดปัญหาตามมา สำหรับโรงพยาบาลนี้มีผู้ป่วยที่เป็นชาวตะวันออกกลางประมาณร้อยละ 20 และขณะนี้ไม่มีผู้ป่วยต้องสงสัยโรคเมอร์สอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว  จากการสังเกตพบว่าพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างสวมผ้าปิดปากกันทุกคนและยังพบว่าผู้ป่วยที่มารักษาส่วนใหญ่ก็ต่างเป็นคนอาหรับกันเกือบทั้งหมดด้วย

ข่าวทั้งหมด

X