รอบวัน:*กรมชลฯระวังค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา/เอกชนกังวลICAOปักธงแดง/ดูแลตัวเองอย่าตืนเรื่องเมอร์ส/จับแน่กลุ่มดาวดิน*

19 มิถุนายน 2558, 08:23น.


+++จากการติดตามวัดระดับค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้กรมชลประทานเฝ้าระวังค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงปากคลองสำแล อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นปากคลองรับน้ำดิบเข้าคลองประปา และให้ระบายน้ำเพิ่มเพื่อไล่น้ำเค็ม หลังพบว่าน้ำเค็มได้ไหลย้อนขึ้นมาถึงปากคลองสำแล ทำให้ค่าความเค็มสูงกว่ามาตรฐาน นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน พยายามบริหารจัดการระบายเพิ่มเข้ามาในพื้นที่แหล่งผลิตน้ำประปาผลักดันน้ำเค็มในอัตราจากระบาย 70 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มเป็น 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สามารถทำให้ระดับค่าความเค็มเป็นปกติ บริเวณปากคลองสำแล มีค่าความเค็มเกินเกณฑ์มาตราฐานการผลิตน้ำประปา ที่ระดับ 0.37 กรัมเกลือต่อลิตรโดยมีค่าความเค็มเกินเป็นรายชั่วโมงในบางช่วงของวัน แต่เมื่อนำเฉลี่ยตลอดทั้งวันพบว่า ค่าความเค็มยังอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานการผลิตน้ำประปา ไม่กร่อย ยังอยู่ที่ระดับ 0.25 กรัมเกลือต่อลิตร  สำหรับปริมาณค่าความเค็มที่ลุ่มน้ำท่าจีน วัดที่ปากคลองจินดา ตอนนี้ยังอยู่เกณฑ์บริหารจัดการได้ โดยไม่เกิน จุดเฝ้าระวัง 0.75 กรัมเกลือต่อลิตร จึงยังไม่กระทบกับสวนกล้วยไม้ ส่วนที่แม่น้ำบางปะกง ค่าความเค็มอยู่ในเกณฑ์ธรรมชาติตามช่วงที่เคยเกิดขึ้น และในวันอังคารที่ 23 มิ.ย.นัดประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารน้ำ 10 หน่วยงาน มาประเมินสถานการณ์ทั้งหมดโดยดูปริมาณน้ำเขื่อน ปริมาณฝน สภาพอากาศ เพื่อใช้ในการบริหารน้ำอย่างใกล้ชิดอีกรอบ



+++ในเวทีประชุมคณะกรรมการเตรียมการเพื่อรับมือวิกฤตการณ์กรุงเทพฯจม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นายสุจริต คูณธนกุลวงศ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการศึกษาในรอบ 20 ปี พบว่ากรุงเทพฯเกิดแผ่นดินทรุดตัว เฉลี่ยปีละประมาณ 1 เซนติเมตร (ซม.) และมีระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 4 มิลลิเมตร (มม.) สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกซึ่งอยู่ที่ 1.8 มม. ส่งผลต่อการเคลื่อนของแผ่นดิน อีกทั้งเมืองยังมีการขยายตัว ทำให้แผ่นดินทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 พบว่าพื้นที่กรุงเทพฯมีการทรุดตัวในพื้นที่ย่านรามคำแหงมากที่สุดกว่า 2 ซม. นอกจากนี้ ในอดีตมีการใช้น้ำบาดาลในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลต่อการทรุดตัวของพื้นที่ด้วย ซึ่งพื้นที่ที่เกิดการทรุดตัวจากการใช้น้ำบาดาลและยังไม่สามารถฟื้นฟูได้ คือ ย่านลาดกระบัง และ จ.สมุทรสาคร ภาครัฐจะต้องมีการปรับปรุงการใช้ที่ดินที่เหมาะสม โดยดำเนินการผ่าน พ.ร.บ.ผังเมือง จัดพื้นที่กักเก็บน้ำ เพิ่มบทลงโทษต่อผู้ลักลอบการใช้น้ำบาดาล และวางผังเมืองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในรูปแบบเดียวกัน โดยภาครัฐต้องตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อร่วมกันวางแผนแก้ปัญหาล่วงหน้าอย่างน้อยใน 20 ปีข้างหน้า



+++ด้านนายศรชัย โตวานิชกุล ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์และวิจัย สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า การที่แผ่นดินทรุดเฉลี่ย 1-2 ซม. ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯเกิดแอ่ง และส่งผลให้พื้นที่เกิดน้ำขัง อีกทั้งกรุงเทพฯ มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลกว่า 4.8 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งประสบกับปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง โดยเกิดการกัดเซาะพื้นที่กว่า 4 เมตรต่อปี ดังนั้น กทม.จึงต้องวางแนวทางแก้ปัญหาทั้งด้านการทรุดตัวและการกัดเซาะของพื้นดิน ด้วยข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน ทำให้ระบบระบายน้ำและการป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพฯ ยังไม่มีความสมบูรณ์ คาดว่า กทม.จะต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการในระบบป้องกันน้ำท่วม ป้องกันการกัดเซาะ และการทรุดตัวของพื้นที่กรุงเทพฯ อีกจำนวนกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นจึงต้องอาศัยรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนโครงการต่อไป



+++เรื่องมาตรฐานการบิน กระทรวงคมนาคม เดินหน้าแก้ปัญหาหลังจากที่ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ หรือไอเคโอ) ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยบนเว็บไซต์ของไอเคโอ ในหมวดการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ภายหลังจากก่อนหน้านี้ไอเคโอได้ตรวจสอบกรมการบินพลเรือน (บพ.) ของไทยแล้วพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ (เอสเอสซี) ความปลอดภัยด้านการบิน และให้เร่งดำเนินการแก้ไขภายใน 90 วัน ซึ่งครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ว่าเป็นการสอบตก เฉพาะเรื่องการออกใบอนุญาตการบิน (เอโอซี) พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ต้องรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ต้องเดินหน้าแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 22 มิ.ย.และในวันนี้ จะมีการแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย



+++พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ไทยสอบตกและถูกปักธงแดง เนื่องจากไทยยังไม่สามารถจัดทำคู่มือการตรวจสอบการออกใบอนุญาตการบินเสร็จทันกำหนด นอกจากนี้ยังแจ้งให้สายการบินไทยของไทยเฝ้าระวังว่าแต่ละประเทศจะมีมาตรการตอบโต้ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ และให้รีบรายงานมาที่กระทรวงคมนาคมเพื่อหาแนวทางรับมือต่อไป ทั้งนี้ ยอมรับว่ารู้สึกเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะที่ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) ก็จะประกาศท่าทีต่อประเทศไทยในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ด้วย



+++ นายหลุยส์ จูเนีย มอเซอร์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (เอโอซี) กล่าวว่า กระบวนการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนปกติ เพราะเมื่อต้นปี ไอเคโอเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของ บพ. และพบเอสเอสซี ทำให้ไทย ตกอยู่ในสถานะธงแดงมาตลอด แต่ยังมีเวลาแก้ไขอีก 90 วัน อย่างไรก็ตามเมื่อครบระยะเวลาแก้ไข 90 วัน แต่ไทยไม่สามารถแก้ไขได้ การเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะก็เป็นขั้นตอนปกติ ที่ไอเคโอต้องดำเนินการ ไม่มีใครจะไประงับเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้



+++นายกฤชณัฐ มีสำราญ อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกำลังจับตาสถานการณ์ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก อาจส่งผลให้องค์กรการบินแต่ละประเทศยกเลิกสายการบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ของไทยได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการรายงานจากสายการบินต่างๆ ถึงการแจ้งยกเลิกเที่ยวบินจากทางกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น หรือเจแคป หรือกรมการบินพลเรือนของเกาหลี ยังไม่ส่งผลกระทบต่อทัวร์อย่างชัดเจน อาจมีกระทบบ้างในเรื่องการทำการตลาดและการวางแผนกับสายการบิน เพราะอาจกังวลการยกเลิก แต่เท่าที่คุยกับสายการบินมา แต่ละสายการบินไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมกับหาทางแก้ปัญหาและปรับปรุงสายการบินของตนเอง และเจรจากับองค์การการบินของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าในแต่ละประเทศน่าจะมีการยืดหยุ่นกันได้ และปัญหาน่าจะผ่านด้วยดี



+++มาตรการกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลผู้ป่วยชาวตะวันออกกลาง ที่ติดเชื้อเมอร์ส รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร จะชี้แจงรายละเอียดความคืบหน้า เวลา 11.00 น. ลักษณะอาการที่ที่แตกต่างจากอาการไข้ คือ ผู้มีอาการจะท้องเสีย อาการแทรกซ้อน ปอดอักเสบ ไตวาย นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านสมอง คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ให้ข้อมุลว่า คนไทยต้องตระหนักและรับผิดชอบตัวเองในการป้องกันโรคนี้ด้วย จะรอเพียงการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าคิดว่าเสี่ยงและมีอาการก็ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ ทั้งนี้ การแพร่ของโรค หากมีอาการ ไอ จาม มาก อาการบอบช้ำมากก็จะแพร่เชื้อไปได้มาก



+++นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า เนื่องจากตามคลินิกเอกชนไม่มีระบบการคัดแยกผู้ป่วยทำให้ ป้องกันโรคลำบาก จึงขอให้ผู้ป่วยที่มีประวัติเดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้และตะวันออกกลางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเท่านั้น ขณะนี้ได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งทุกสถานพยาบาลแล้ว และในวันที่ 22 มิ.ย.จะเชิญ ผู้แทนโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งและคลินิกเข้าประชุมเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจในมาตรการควบคุมป้องกันโรคเมอร์ส ต่อไป



+++ความเคลื่อนไหวการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อเปิดทางการทำประชามติ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 203 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 คะแนน โดยใช้เวลา 5 ชั่วโมง 10 นาที ทั้งนี้ หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.)ได้ลงมติเห็นชอบแล้ว จะต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญฯนี้ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย



+++ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม หารือถึงข้อเสนอของคณะผู้พิพากษาจำนวน 1,130 คน ที่ขอให้ทบทวนสัดส่วนของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ที่กำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก โดยที่ประชุมส่วนใหญ่มีความเห็นร่วมกันว่าควรกลับไปโครงสร้างแบบเดิม คือ ให้มีสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอกที่ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา หรือตุลาการและไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจำนวน 2 คน อย่างไรก็ตาม กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่ได้ลงมือแก้ไขในตัวบทบัญญัติอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเพียงแค่การหารือและรวบประเด็นเท่านั้น โดยการแก้ไขเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกจะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะรวมไปถึงการพิจารณาแก้ไขเนื้อหาในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย



+++วันนี้ ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ เพื่อมาพูดคุยหารือขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปและการปรองดองเพื่อเดินหน้าประเทศ และในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. ก็จะเชิญนายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ นายนิติธร ล้ำเหลือ แกนนำ คปท. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมหารือที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดีรังสิต



+++ส่วนกลุ่มดาวดิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวว่า ได้สิ้นสุดการผ่อนผันเข้ารายงานของนักศึกษากลุ่มดาวดิน ตามหมายเรียกของ สภ.เมือง ขอนแก่น ในข้อหา ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ มีจำนวนตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ หากไม่มารายงานตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจำเป็นต้องเพิ่มระดับเป็นการออกหมายจับ และวันนี้ เป็นวันสุดท้ายของการผ่อนผันกรณีกลุ่มนักศึกษา ที่จัดกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ จำนวน 9 คน ต้องมารายงานตัว หากไม่มาก็จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป



 

ข่าวทั้งหมด

X