รอบวัน:คมนาคมเร่งแก้ปัญหาหลังถูกปักธงแดง/นายกฯย้ำอย่าตื่นตระหนกเมอร์ส/เกาหลีใต้ตายเพิ่ม3/จับตาอนาคตกรีซ

18 มิถุนายน 2558, 19:57น.


+++พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่นายหลุยส์ จูเนีย มอเซอร์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน หรือเอโอซี ระบุว่าวันนี้ไอซีเอโอ เผยแพร่ข้อมูลมาตรฐานความปลอดภัยของไทยผ่านเว็บไซต์โดยมีการปักธงแดง ซึ่งแสดงถึงปัญหามาตรฐานความปลอดภัย  ยอมรับสภาพว่าแผนแก้ไขข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ(SSC) ของไทยยังไม่ผ่านการพิจารณาของไอซีเอโอ  ยอมรับว่าปัญหาสะสมมานาน และมีหลายปัจจัย ปัญหาทุกข้อจึงแก้ไขได้ค่อนข้างยาก แสดงถึงกระบวนการที่อยู่ระหว่างแก้ไขมาตรฐาน ต้องติดตามผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะองค์กรการบินพลเรือนของยุโรป ซึ่งจะมีการรับข้อมูลจากไอซีเอโอ และจะมีประกาศท่าทีวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้ ได้รับข้อมูลในมุมมองบวกต่อการแก้ปัญหาการบินของไทย จากที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปพบประธานไอซีเอโอ ที่ประเทศแคนาดา แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกปักธงแดง ไม่ทราบว่ามาจากการสื่อสารที่ผิดพลาดของฝ่ายใด ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นระหว่างตัวเองและนายอาคมก็ได้ ทั้งนี้ ในส่วนของความรู้สึกยอมรับว่าเปรียบเสมือนนักเรียนสอบตกจากปัญหาดังกล่าว การแก้ไขปัญหาความปลอดภัยการบินยังต้องเดินหน้าต่อไปจะท้อถอยไม่ได้



+++นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่ากรณีกรมการบินพลเรือน (บพ.)ของประเทศไทยได้ถูกตรวจสอบตามโครงการตรวจสอบ การกำกับดูแลความปลอดภัยสากล (Universal Safety Oversight Oversight Audit Program ; USOAP) จากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ  และพบข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ (SSC) โดยมีสัญลักษณ์ธงแดงปรากฎที่ชื่อประเทศไทยในเว็บไซต์ของ ICAO นั้น เป็นการแสดงถึงว่ากรมการบินพลเรือนของประเทศไทยยังมีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยที่ยังไม่เพียงพอตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้หมายความว่าการบริการเดินอากาศ สายการบิน เครื่องบิน และสนามบินของประเทศไทยมีข้อบกพร่อง หรือไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย



+++ดัชนีหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,508.04 จุด ลดลง 6.75 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 40,625.23 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนลบตลอดวัน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว และนักลงทุนต่างชาติยังเทขายสุทธิต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายรอจับตาแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซในการประชุมรมว.คลังของสหภาพยุโรปคืนนี้



+++นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสของกรีซเขียนบทความแสดงความเห็นในหนังสือพิมพ์ทาเกส สปีเกลของเยอรมนีฉบับวันนี้ว่า การที่เจ้าหนี้ย้ำที่จะให้กรีซปรับลดเงินบำเหน็จบำนาญโดยไม่ยอมรับฟังเหตุผลจากรัฐบาลกรีซ ยิ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของกรีซให้แย่หนักกว่าเดิม ในปัจจุบันมีอัตราการว่างงานในกรีซสูงถึงร้อยละ 25 กว่าครึ่งหนึ่งของคนว่างงานทั้งหมดเป็นคนรุ่นหนุ่มสาว นายกฯ กรีซ เพิ่มเติมว่าเงินบำเหน็จบำนาญถือเป็นแหล่งรายได้แหล่งเดียวของหลายครัวเรือนในกรีซ รัฐบาลปรับลดงบประมาณสำหรับบำเหน็จบำนาญและงบด้านสังคมลงมากถึงร้อยละ 50 ระหว่างปี 2553-2557 ทำให้การปรับลดเพิ่มเติมในด้านนี้ไม่อาจจะทำได้มากมากกว่านี้อีก



+++สำหรับความหวังจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังของยูโรโซนที่ลักเซมเบิร์กในวันนี้ ถือเป็นโอกาสสุดท้ายของกรีซ ขณะนี้ส่อเค้าเลือนลางไปทุกขณะ สำหรับรัฐบาลกรีซ จะต้องหาทางผ่าทางตันในการเจรจากับเจ้าหนี้ให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นกรีซจะไม่มีเงิน 1,600 ล้านยูโรเพื่อใช้หนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ จะมีผลให้กรีซประสบภาวะล้มละลายและจะต้องออกจากยูโรโซนในที่สุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 59.13 จุด ปิดวันนี้ที่ 26,694.66 จุด

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น ลดลง 228.45 จุด ปิดที่ 19,990.82 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ลงมติในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วงร้อยละ 0-0.25 ต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากสัญญาณการอ่อนตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงต้นปีได้เริ่มเบาบางลงแล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับสถานการณ์เกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป และรัฐมนตรีกระทรวงคลังเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยในระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ว่า โอกาสที่รัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป จะบรรลุข้อตกลงกับกรีซได้นั้น มีน้อยมาก



+++การแสดงความเห็นหลากหลายเรื่องการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านสังคม แถลงคัดค้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สนับสนุนการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ว่าเป็นการตั้งตรรกะที่ผิด ในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ผบ.ตร.ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องคาสิโน ควรเป็นผู้รักษากฎหมายไม่ใช่นำสิ่งผิดกฎหมายมาพูด ไม่ใช่เอาของใต้ดินมาไว้บนดิน ซึ่งจะสร้างความแตกแยกในครอบครัวและเกิดปัญหาสังคมได้ และถ้าผบ.ตร บอกว่าจะตั้งเพจและตั้งโต๊ะล่ารายชื่อสนับสนุนบ่อนคาสิโนถูกกฎหมาย ก็จะตั้งโต๊ะประจันหน้า คัดค้านอย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ เห็นว่า ผบ.ตร. ควรทำทันที แต่ควรลาออกจากตำแหน่งก่อน เพราะเรื่องนี้ผิดกฎหมาย หากมีตำแหน่งอยู่จะไม่เหมาะสม ยืนยันว่าแม้จะคิดต่าง แต่ก็ไม่ได้เย้ยหยันคนที่ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับกลุ่มสปช.รักชาติ 12 คน ควรหยุดเคลื่อนไหว เพราะไม่ใช่หน้าที่ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ควรให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องมาพูดเอง



+++กรณีการตรวจพบเชื้อเมอร์สในผู้เดินทางมาจากประเทศโอมาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจพบและดำเนินการให้การรักษาในพื้นที่ควบคุม รวมถึงการติดตามดูแลตรวจสอบ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับชายคนนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมั่นใจในกระบวนการทำงานที่ครอบคลุมครบถ้วนของกระทรวงสาธารณสุข และมั่นใจว่าจะควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามขั้นตอนการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดในระดับสูงสุดตามมาตรการสากล  ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด รวมทั้งให้การรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้ออย่างดีที่สุด นายกฯ ระบุว่า ประชาชนไม่ควรตกใจกับเหตุการณ์ แต่จำเป็นต้องใส่ใจติดตามข่าวสารและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด สำหรับรัฐบาลเองได้ดำเนินตรวจสอบและเฝ้าระวัง อย่างเต็มที่ รวมทั้งกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีเผชิญเหตุเพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ



+++สำนักข่าวยอนฮับ รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของเกาหลีใต้ว่า มีคนไข้เมอร์สเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพในวันนี้ รวมจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 23 ศพ กรณีล่าสุดส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิตจากเมอร์สในเกาหลีใต้เพิ่มเป็นร้อยละ 14 สูงที่สุดนับตั้งแต่มีรายงานคนไข้เมอร์สรายแรกในเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ในจำนวนผู้เสียชีวิต 3 ราย สองคนอายุ 60 ปี มีปัญหาสุขภาพมาก่อน รวมถึงวัณโรคและความดันโลหิตสูง แต่ทรุดหนักหลังติดไวรัสเมอร์ส ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นสตรีวัย 82 ปีซึ่งติดไวรัสเมอร์สขณะไปเยี่ยมคนไข้คนหนึ่งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองแทจ็อน ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ราว 160 กิโลเมตร ในปัจจุบันคน 6,729 คนถูกกักตัวรอดูอาการ หลังการใกล้ชิดกับคนไข้เมอร์ส



+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติของฮ่องกงมีมติเสียงข้างมาก 28 ต่อ 8 เสียง คัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปการเมืองที่สนับสนุนโดยรัฐบาลแผ่นดินใหญ่ ที่รวมถึงกระบวนการสรรหาผู้มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะฮ่องกงคงต่อไปในปี 2560 แทนนายเหลียง เจิ้น อิง ที่ต้องผ่านการคัดสรรของคณะกรรมการพิเศษ 1,200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีแนวคิดสนับสนุนรัฐบาลจีน การลงมติที่เกิดขึ้นยังไม่ถือว่ามีผลตามกฎหมาย หรือมีผลเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เนื่องจากจำนวนผู้ออกเสียงข้างมากไม่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกสภาทั้งหมด คืออย่างน้อย 47 คน จากทั้งหมด 70 คน โดยวันลงมติมีผู้เข้าร่วมการประชุมเพียง 37 คน และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการเมืองที่มีแนวคิดสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งต้องการให้การเลือกตั้งผู้ว่าการเกาะฮ่องกงเป็นไปอย่างเสรี ขณะที่สมาชิกสภาซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนแผ่นดินใหญ่ร่วมกันคว่ำบาตรการประชุมครั้งนี้



+++รัฐสภาของจีน กล่าวว่า การตัดสินใจเรื่องการปฏิรูปการเลือกตั้งในฮ่องกงเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จะยังคงใช้บังคับต่อไปแม้ว่าสภานิติบัญญัติฮ่องกงจะลงมติยับยั้งข้อเสนอดังกล่าวก็ตาม อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวมิได้ให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่าทีของรัฐสภาจีนดังกล่าว



 +++สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ ( เอฟดีเอ ) ออกแถลงการณ์ระบุให้ไขมันทรานส์ หรือไขมันผ่านกรรมวิธีสังเคราะห์ให้ทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนให้กลายเป็นของแข็งกึ่งเหลว เช่นเนยเทียม และมาการีน เป็นสารปรุงอาหารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ประกอบการด้านอาหารยุติการใช้ไขมันทรานส์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหาร โดยให้เวลาภายใน 3 ปีนับจากนี้ จากนั้นไม่สามารถใช้ได้และจะมีความผิดตามกฎหมายหากฝ่าฝืน จากนี้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำร้องขออนุญาตใช้ไขมันทรานส์ในอาหารได้เป็นรายกรณีไป ซึ่งเอฟดีเอ จะพิจารณาตามความเหมาะสม  มาตรการนี้ จะไม่มีผลต่อไขมันทรานส์ "ตามธรรมชาติ" ที่พบในเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นม   การรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์  ซึ่งพบมากในเค้ก คุกกี้ ขนมปัง และอาหารแช่แข็งอีกนานาชนิด เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายล้านคนในแต่ละปี



+++ความคืบหน้าเหตุยิงกันในโบสถ์คริสต์เอมานูเอล แอฟริกัน เมโธดิสต์ เอพิสคอปัล โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาในเมืองชาร์ลสตัน เมื่อเวลา 21.00 น.ของวานนี้ในช่วงที่มีการสวดมนต์  สำนักข่าวบีบีซี รายงานอ้างนายเกรกอรี มูลเลน ผู้บังคับการตำรวจในเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐฯว่า มีคนเสียชีวิต 9 ศพรวมถึงบาทหลวงคลีเมนตา พิงค์เนย์ ตำรวจยังติดตามไล่ล่าผู้ต้องสงสัยวัย 21 ปีรายหนึ่งเป็นชายผิวขาว รูปร่างสันทัด เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะเคยมีเรื่องบาดหมางกับคนร้ายมาก่อน พยานให้ข้อมูลว่า มือปืนนั่งอยู่ในโบสถ์ก่อนจะลุกขึ้นและกราดยิงใส่คนในโบสถ์



 

ข่าวทั้งหมด

X