*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.
+++สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศวันที่ 18 มิ.ย. เป็นที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1436 ส่วนบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้คึกคัก ประชาชนต่างออกมาจับจ่ายซื้อของ เตรียมตัวเทศกาลถือศีลอด นายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโก-ลก เป็นประธานเปิดโครงการตรวจสุขภาพผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมของสุขภาพรับเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม กล่าวว่า ในช่วงเดือนรอมฎอน ถือว่าเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องประชาชน ที่เคยหลงผิดและเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและพื้นที่ต่างๆ ขอให้พี่น้องประชาชนฝากประชาสัมพันธ์ ให้เดินทางกลับมาร่วมละศีลอดกับสมาชิกในครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน ซึ่งทางการจะให้ความเป็นธรรมและดูแลคดีให้ได้รับความยุติธรรมอย่างที่สุด โดยทางการจะออกหนังสือรับรองให้ทุกคน ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่4 ที่ต้องการให้คนที่เคยหลงผิดกลับตัวกลับใจมาร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองให้เกิดสันติสุข นอกจากนั้น จะมีการนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ออกตรวจสุขภาพประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนชราที่ในทุกๆ ปี โดยเฉพาะ ผู้ป่วยโรคกระเพาะ ความดันและเบาหวาน ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นกรณีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่
+++พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมีผู้โพสต์เรื่องการปฏิวัติซ้อนผ่านทางสังคมออนไลน์ว่า ได้รับรายงานว่าเว็บไซต์ที่โพสต์ข้อความเหล่านั้น ใช้ชื่อว่า "www.dangdd.com" ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการเข้าถึงไว้แล้ว ส่วนผู้โพสต์ทราบว่าเป็นบุคคลที่ใช้เซิฟเวอร์อยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้พบว่า ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่นำระบบ "ซิงเกิ้ลเกตเวย์" หรือระบบป้องกันข้อความที่ไม่เหมาะสม มาใช้ในงานด้านความมั่นคงเครื่องนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ1,000ล้านบาท แต่กับงานด้านความมั่นคงแล้วถือว่าคุ้มค่า
+++นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง การจัดเก็บรายได้ 8 เดือนแรกปีงบประมาณ 2558 ต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 1.14 แสนล้านบาท ว่าได้กำหนดให้รัฐวิสาหกิจส่งรายได้เพิ่มเติมอีก 5-6 หมื่นล้านบาท น่าจะสามารถชดเชยกับรายได้ในภาพรวมที่ลดลงได้ โดยประเมินเบื้องต้นว่าการจัดเก็บรายได้ปีนี้อาจจะหลุดเป้า 1 แสนล้านบาท ขณะนี้เศรษฐกิจไทยยังต้องพึ่งพาการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนเป็นหลัก โดยภาครัฐได้เร่งลงทุนในโครงการขนาดเล็ก ส่วนโครงการขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการเตรียมรายละเอียด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 2559
+++ สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำต่อไป คือกระตุ้นการบริโภคทั้งภาครัฐและเอกชน แต่ยอมรับว่าขณะนี้เงินที่จะไปถึงภาคเอกชนยังน้อย ภาคเอกชนบ่นกันว่าเงินฝืด ภาครัฐพยายามเร่งกระตุ้นแต่ทำอะไรได้ไม่มาก เพราะการส่งออกที่ลดลงทำให้การจ้างงานลดลง ดังนั้นสิ่งที่น่าจะทำได้เร็วคือ การใส่เงินเข้าไปช่วยเหลือคนจนเพิ่มเติมเพื่อให้มีเงินจับจ่ายใช้สอย ขณะนี้กำลังดูในส่วนของตัวเลข โดยจะเปิดเผยให้ทราบในช่วงสัปดาห์หน้า
และเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ พิจารณาต่ออายุมาตรการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ 7% ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ออกไป อีก 1 ปี หรือถึง ก.ย.2559 ยืนยันว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพราะภาพรวมเศรษฐกิจไทยขณะนี้ยังไม่เอื้ออำนวยที่จะปรับเพิ่มภาษีดังกล่าว
+++นายเสมียน หงษ์โต ประธานเครือข่ายชาวนาภาคกลาง กล่าวว่า แกนนำชาวนา 11 จังหวัดภาคกลางร่วมประชุมที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรรณบุรี เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือชาวนาเพื่อเสนอให้รัฐบาลรับทราบ เพราะชาวนาทำตามที่รัฐบาลประกาศทุกอย่าง แต่เมื่อมีปัญหาขาดแคลนน้ำทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากลงมือทำนาไปแล้ว กรมชลประทานควรแก้ปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น จึงมีมติเรื่องการช่วยเหลือชาวนาคือชาวนาที่ลงทุนทำนาไปแล้ว ซึ่งขาดทุนไร่ละกว่า 3 ,000 บาท ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาอย่างต่ำไร่ละ 3,000 บาท นอกจากนี้แกนนำชาวนา 11 จังหวัดและตัวแทนสภาเกษตรกรระดับอำเภอซึ่งจะรอดูสัญญาณจากรัฐบาล หากออกมาไม่ดี ชาวนาจะมีการเคลื่อนไหวภายในเดือนนี้อย่างแน่นอน
+++ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ออกรายงานหนี้ภาคครัวเรือนของไทยและมาเลเซียยังคงอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสิ้นปี 2557 หนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ที่ระดับ ร้อยละ 86 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และมาเลเซียร้อยละ 87 ฟิทช์มองว่าระดับสินเชื่อภาคครัวเรือนยังมีแนวโน้มที่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเพื่อการบริโภคจะไม่ปรับตัวลงต่ำกว่าการเติบโตของจีดีพีของทั้งสองประเทศมากนัก แต่สถาบันการเงินยังมีความเข้มแข็งที่จะรองรับความเสียหายจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นได้ สินเชื่อเพื่อการบริโภคของไทยในปี 2557 เพิ่มขึ้น 6.5% จากที่เคยสูงถึง 18% ในปีก่อนหน้า และมาเลเซียมีหนี้เพิ่ม 9.9% จาก 13.9% ลดลง ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากมาตรการกำกับดูแลของสถาบันการเงินเพื่อควบคุมการขยายสินเชื่อภาคครัวเรือนที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่ำทำให้กำลังซื้อของคน กลุ่มนี้ลดลง
+++นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า อัตราหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้น่าจะชะลอตัวลงจากล่าสุดไตรมาส 4 ปี 2557 อยู่ที่ 85.9% เนื่องจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคเริ่มชะลอลงแล้ว นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. สั่งการให้ศึกษารายละเอียดเรื่องหนี้ครัวเรือนของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเกษตรกร และคนที่เป็นหนี้เกิน 40% ของรายได้ เพราะกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบได้ง่าย
+++นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ข้อเสนอของศูนย์ช่วยเหลือ ลูกหนี้แก่กระทรวงยุติธรรมให้แก้ไข พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 โดยให้คิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 15% ต่อปีนั้น ไม่มีผล กระทบกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นันแบงก์) เพราะมีกฎหมายเฉพาะกำกับอยู่ ายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การจะแก้กฎหมายต้องพิจารณาให้รอบด้านว่าจะเกิดผลกระทบตามมาหรือไม่ ในระบบการเงินราคาต้องสะท้อนความเสี่ยง หากวางกฎเกณฑ์คุมราคาแล้วอาจส่งผลให้ผู้บริโภคบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะสมได้ ธนาคารมีต้นทุนการบริหารและการแข่งขันที่รุนแรง การเติบโตมาจากกำไรสะสม หากไม่มีกำไรแบงก์จะโตไม่ได้ หมายถึงปล่อยกู้ไม่ได้ กลไกเศรษฐกิจก็ติดขัด
++++วันนี้ ที่ประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 โดยเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาชี้แจงสาระสำคัญการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฯ จะพิจารณา 3 วาระรวด ภายในวันเดียว ไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม วิป สนช. จะเปิดให้สมาชิกอภิปรายไม่จำกัดเวลา เพื่อเสนอข้อมูลให้รอบด้าน หากมีความจำเป็น ต้องแก้เนื้อหาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นเล็กน้อย รัฐมนตรีทั้ง 3 คน มีอำนาจตัดสินใจในนาม ครม.ได้ แต่ถ้าเป็นประเด็นสำคัญ อาจจำเป็นที่ ครม.ต้องนำกลับไปหารือกันอีกครั้ง เท่าที่ดูยังไม่พบว่า มีประเด็นใดมีปัญหา เชื่อว่า สนช.จะให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อเปิดทางไปสู่การทำประชามติ
++++แก้ปัญหาจักรยานยนต์ซิ่ง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ทาง ตร. เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้ ม.44 แก้ไขปัญหาการแข่งขันรถ จยย. บนทางสาธารณะ และการจับกุมร้านแต่งรถผิดกฎหมายที่ต้นตอ โดยต้องดำเนินการทางกฎหมายกับร้านและช่างแต่งรถที่บางครั้งก็เป็นผู้จัดการแข่งขันอย่างผิดกฎหมาย มีการประชาสัมพันธ์ กำหนดและสำรวจเส้นทางรวมทั้งตั้งรางวัลเพื่อผลประโยชน์ในการค้าด้วย หากทำผิดหลายครั้งทางการก็จะมีสิทธิขอยึดใบอนุญาตและไม่สามารถประกอบกิจการประเภทนี้ได้
++++วันนี้ ร.อ.ปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จะชี้แจงมาตรการป้องกันโรคไวรัสเมิร์ส เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ หลังการระบาดได้สร้างความตื่นตระหนก