บีบีซี รายงานว่า ธนาคารกลางแห่งกรีซได้เตือนเป็นครั้งแรกว่า กรีซอาจจะไม่มีเงินชำระหนี้และต้องออกจากกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร(ยูโรโซน)และสหภาพยุโรป(อียู)อย่างเจ็บปวด เพิ่มเติมว่าการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจะเร่งตัวเร็วขึ้น ถ้าหากว่าไม่อาจบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ เพิ่มเติมว่าการทำข้อตกลงกับหุ้นส่วนของกรีซโดยเร็วถือเป็นภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลกรีซควรจะเร่งดำเนินการให้สำเร็จ คำเตือนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้นานาชาติตำหนิกันไปมาว่า เป็นสาเหตุที่ให้การทำข้อตกลงเรื่องการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซไม่คืบหน้า ส่งผลให้เจ้าหนี้ยังไม่อนุมัติเงินกู้งวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโรในโครงการช่วยกู้วิกฤติที่จะสิ้นสุดในช่วงปลายเดือนนี้
ขณะนี้กรีซมีเวลาอีก 2 สัปดาห์ที่จะสรุปข้อตกลงกับเจ้าหนี้ให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้น กรีซจะไม่มีเงิน 1,600 ล้านยูโรเพื่อใช้หนี้ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารกลางของกรีซเตือนอีกว่า มีการแห่ถอนเงินฝากราว 30,000 ล้านยูโรจากธนาคารของกรีซระหว่างเดือนตุลาคมปีก่อนถึงเดือนเมษายนปีนี้ แม้ว่าจะมีคำเตือนดังกล่าว แต่ดัชนีตลาดหุ้นของกรีซเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ในช่วงแรกของการซื้อขายในตลาดหุ้นกรีซในวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นของกรีซร่วงลงร้อยละ 11 นับแต่วันศุกร์ก่อน โดยหุ้นธนาคารดิ่งลงหนักสุด
ขณะเดียวกัน นายเวอร์เนอร์ เฟย์แมนน์ รัฐมนตรีคลังออสเตรีย เยือนกรุงเอเธนส์ในวันนี้ ในการพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อช่วยผ่าทางตันในการเจรจาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ เขากล่าวระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีโปรโกปิส ปัฟโลโปอูโลส ของกรีซว่า การที่ยุโรปจะเข้มแข็งต่อไปได้ อียูจะต้องมีความเป็นปึกแผ่นและช่วยเหลือประเทศที่เดือดร้อน การพบปะดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมของรัฐมนตรีคลังจากยูโรโซนที่ประเทศลักเซมเบิร์กในวันพรุ่งนี้ หลายคนมองว่าอาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของกรีซที่จะยอมจำนนตามข้อเรียกร้องเจ้าหนี้ เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม
ทีมข่าวต่างประเทศ
CR:BBC