*ปธ.ปปช.ขออสส.แก้ต่าง หลังถูกอดีตรมต.พท.ฟ้องชี้มูลความผิดจ่ายเงินเยียวยาม็อบ*

17 มิถุนายน 2558, 12:36น.


 หลัง อดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยรวมตัวฟ้องนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนและกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีรวม34 ราย ในการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองปี2548-2553 ว่าไม่มีกฎหมายรองรับนั้น



นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ  ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติให้อัยการสูงสุด ทำหน้าที่แก้ต่างแทน ป.ป.ช.ในฐานะหน่วนงานของรัฐที่ทำตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย  ซึ่งกำลังทำหนังสือ เพื่อจะประสานไปยังอัยการสูงสุด และป.ป.ช.กำลังเตรีบมรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริง รวมทั้งพยานหลักฐานในเรื่องการเเจ้งข้อกล่าวหา ที่ ป.ป.ช.มองว่าการจ่ายเงินเยียวยาดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับ ซึ่งศาลอาญา นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 13 สิงหาคม ทั้งนี้ยืนยันว่าป.ป.ช.ได้ทำตามอำนาจหน้าที่  และยังคงเดินหน้าไต่สวนข้อเท็จจริงคดีดังกล่าว โดยความคืบหน้าขณะนี้ป.ป.ช.ได้เลื่อนการรับทราบ  ข้อกล่าวหาของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 30 มิ.ย. และหากหลังจากวันที่ 30 มิ.ย. ยังไม่มีบุคคลที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช.จะส่งหนัอสือแจ้งข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ ซึ่งจะถือว่าผู้ถูกกล่าวหารับทราบข้อกล่าวโดยอัตโนมัติ และจะต้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และหากไม่เดินทางมาชี้แจงภายใน15 วันก็จะถือว่าๆไม่ติดใจในข้อกล่าวหา



ส่วนกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบร่างกฎหมายปราบปรามการทุจริตและการปรับปรุงกระทรวง ที่ยกระดับการแก้ไขปัญหาการทุจริตในภาครัฐของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายปานเทพ ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวจะช่วยยกระดับให้ป.ป.ท. เป็นหน่วยงานอิสระ ซึ่งการทำงานจะขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี แต่อำนาจหน้าที่ยังคงเหมือนเดิม ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับล่าง ขณะที่ป.ป.ช.ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง แต่กฎหมายดังกล่าวจะไม่กระทบกับอำนาจหน้าที่ของป.ป.ช.แต่จะช่วยให้การทำหน้าที่มีความชัดเจนขึ้น



สำหรับการไต่สวน คดีของนายมนตรี โสตางกูร กรมวังผู้ใหญ่ ในข้อหาปฎิบัติหน้าที่โดยมีชอบ นั้น ขณะนี้  สำนวนคดียังไม่มาถึง  เมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องพิจารณาว่าคดีดังกล่าว ป.ป.ช.มีอำนาจไต่สวนหรือไม่ เช่นเดียวกับคดีของชาวโรฮิงญา ที่พบว่ามีข้าราชการท้องถิ่นเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน

ข่าวทั้งหมด

X