*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น
++++พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมการประชุมทางวิชาการระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ครั้งที่ 3) เวลา 08.30 - 15.15 น ณ ห้องกมลทิพย์ บอลรูม รร. เดอะสุโกศล ถ. ศรีอยุธยา กรุงเทพฯ โดยนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปิด และหลังจากนั้นจะมีการปาฐกถาพิเศษ โดยนายกรัฐมนตรี
+++ข่าวการปฏิวัติซ้อน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เร่งตรวจสอบหาผู้โพสต์ข้อความแล้ว เนื่องจากเป็นการสร้างความสับสนและทำให้ประชาชนตื่นตระหนกตกใจ ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวไม่มีมูลความจริง
+++การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 แทนนายทหารที่เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน โดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีรายงานระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ได้หารือกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะ ผบ.ทบ. ขอให้พิจารณา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. เนื่องจากมีความสามารถสูง เหมาะสมหลายประการ และที่สำคัญผ่านการคุมกำลังหลัก ประกอบกับเป็นนายทหารสายบูรพาพยัคฆ์
+++สำหรับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ.แคนดิเดตอีกคนนั้น ถึงแม้จะเป็นน้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ก็ตาม หากแต่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ.เพื่อเป็นกำลังหลักในการสนับสนุนรัฐบาลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในประเทศได้ แต่อาจจะถูกมองจากสังคมภายนอกว่า นายกฯเลือกที่จะเอาน้องชายขึ้นสืบทอดอำนาจ จึงเป็นไปได้ว่าหาก พล.อ.ธีรชัยได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ทบ. และให้ พล.อ.ปรีชาไปรับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมแทน เพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรจะได้นัด ผบ.เหล่าทัพหารือในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2558 ในเดือนกรกฎาคม
+++แก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.แจ้งต่อที่ประชุมว่า สรุปผลการหารือวาระพิเศษเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนนั้น สปช.ได้รับทราบสาระสำคัญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2557 (ฉบับชั่วคราว) ตามที่รัฐบาลเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแก้ไข ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือ สปช.จะสิ้นสุดหลังจากให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ และสามารถเสนอคำถามการประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้ 1 คำถาม ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญสามารถขยายระยะเวลาในการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญไม่เกิน 30 วัน คาดว่า สปช.จะได้รับร่างรัฐธรรมนูญที่แก้ไขแล้วเสร็จภายในวันที่ 22 สิงหาคม ส่งผลให้ สปช.อาจจะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญในระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน
+++ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีข้อสรุปประเด็นวุฒิสภา (ส.ว.) ได้แก่ ระบบการได้มา อำนาจหน้าที่ การเสนอกฎหมาย การให้ ความเห็นการตั้งรัฐมนตรี และการถอดถอน จากนั้นถึงจะเริ่มพิจารณาเป็นรายมาตราในวันที่ 24 มิถุนายนนี้
+++ที่ประชุมกกต.จึงมีมติให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้น 4 คณะ เพื่อทำประชามติรัฐธรรมนูญนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวงบทำประชามติ ว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายการจัดออกเสียงประชามติยังไม่นิ่ง เนื่องจากรูปแบบการทำประชามติเปลี่ยนไป เช่น จะมีบัตรออกเสียง 3 ใบ หีบ 3 หีบ ต้องนับคะแนนแยกจากกัน ดังนั้น กกต.ต้องนำรายละเอียดดังกล่าวมาคำนวณค่าใช้จ่ายใหม่ เช่น ค่าพิมพ์บัตร จะเพิ่มจากเดิม 50 ล้านใบ เป็น 150 ล้านใบ ใช้เงินเพิ่มประมาณ 100 ล้านบาท ค่าหีบจากเดิมใช้ประมาณ 100,000 หีบ เพิ่มเป็น 300,000 หีบ ใช้เงินเพิ่มประมาณ 20 ล้านบาท กรรมการประจำหน่วย จากเดิม 7 คน ต้องเพิ่มเป็น 11 คน เท่ากับการเลือกตั้ง ส.ส. ต้องมีการคำนวณค่าใช้จ่ายด้านอบรมและเบี้ยเลี้ยงปฏิบัติงานใหม่ ดังนั้นจึงให้ทางสำนักงานไปดำเนินการคำนวณตัวเลขที่ต้องใช้จ่ายจริงมาให้ กกต.พิจารณา
+++วันนี้ จะมีการแถลงข่าว หลังกรณีผู้พิพากษาศาลยุติธรรม 1,130 คน เข้าชื่อในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นเกี่ยวกับที่มาคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) และการอุทธรณ์คำสั่งของ ก.ต.ที่ลงโทษวินัยผู้พิพากษาสามารถอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้ เนื่องจากในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ให้มีสัดส่วนจากบุคคลภายนอก 1 ใน 3 ของคณะกรรมการ ส่วนอุทธรณ์คำสั่งของ ก.ต.ไปยังศาลฎีกาได้นั้น มองว่าการตรวจสอบของ ก.ต.เป็นองค์กรตรวจสอบวินัยของตุลาการ มีการตรวจสอบ 4 ขั้นตอน ถือว่าการพิจารณาของ ก.ต. มีคุณภาพเชื่อถือได้ จากนั้นทางตัวแทนผู้พิพากษาจะนำจดหมายเปิดผนึกไปมอบให้ สนช. ครม. สปช. กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และ คสช.
+++วันนี้ ต้องติดตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะประชุมแผนการการเลื่อนทำนาปีในลุ่มน้ำเจ้าพระยากับผู้ว่าราชการจังหวัด และประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการสร้าง รายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง
+++มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตกบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และกระบี่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-21 มิถุนายน 2558 บริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
+++ปัญหาน้ำท่วม ในกรุงเทพฯ นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงขณะที่การป้องกันน้ำท่วมจากฝนตกหนักในปริมาณที่เกินขีดความสามารถของระบบระบายน้ำ (เกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง) กทม.ได้พัฒนาระบบระบายน้ำ โดยก่อสร้างท่อระบายน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ เขื่อนริมคลองระบายน้ำ แก้มลิง จัดตั้งศูนย์ป้องกันน้ำท่วม เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังให้หมดไปอย่างรวดเร็ว โดยกำหนดเป้าหมายให้ระบบต้องระบายน้ำออกไปจากพื้นที่ภายใน 2 ชั่วโมง โดยขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันดูแล บำรุงรักษาระบบระบายน้ำ โดยการทิ้งขยะ สิ่งของ เศษวัสดุลงใน คู คลอง ท่อระบายน้ำ รวมทั้งการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลงในแม่น้ำและคู คลอง เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ ขีดความสามารถการระบายน้ำไม่สามารถ ดำเนินการให้เป็นไปตามแผน
+++ช่วงบ่าย พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเรียกคณะพนักงานสอบสวนคดีนายมนตรี โสตางกูร อดีตกรมวังผู้ใหญ่ แอบอ้างเบื้องสูง ประชุมสรุปสำนวนคดีให้เสร็จ หลังวานนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายมนตรี ส่งตัวผู้ต้องหาคืน เพื่อศาลจะได้มีคำสั่งและดำเนินการต่อไป ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้รับตัวผู้ต้องหาไว้เพื่อควบคุมตัวต่อไป ไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร สำหรับความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น พนักงานสอบสวนประสานไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนมูลความผิดแล้ว ขึ้นอยู่กับป.ป.ช.จะพิจารณาว่าคดีมีมูลความผิดหรือไม่ ส่วนทรัพย์สินของนายมนตรีที่เจ้าหน้าที่ยึดและอายัด รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้ประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณาว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือไม่ ก่อนยึดทรัพย์ต่อไป