ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เปิดเผยกับนักข่าวต่างประเทศ นอกรอบการประชุมความมั่นคงของสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (Collective Security Treaty Organization)ในกรุงอัสตานา คาซัคสถาน ซึ่งมี 6 ประเทศที่แยกตัวจากอดีตสหภาพโซเวียด ร่วมประชุมได้แก่ รัสเซีย, คาซัคสถาน, อาร์เมเนีย, อุซเบกิสถาน, คีร์กีซสถาน, ทาจิกิสถาน โดยช่วงท้ายการแถลงข่าว นักข่าวถามนายปูตินว่า การที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ อนุญาตเมื่อเร็วๆนี้ ให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่น ATACMS ในการโจมตีรัสเซียจะกระทบความสัมพันธ์ในอนาคต ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ หรือไม่
นายปูติน แสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองจะเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ หลังจากนายทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศในเดือนม.ค.ปีหน้า เนื่องจาก นายทรัมป์ เป็นนักการเมืองที่ชาญฉลาด อีกทั้งเคยมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศสมัยแรกมาแล้ว เพิ่มเติมว่า นายทรัมป์เอาชนะบททดสอบสำคัญในชีวิต ก่อนกลับมาสู่ทำเนียบขาวสมัยที่ 2 หมายถึงรอดพ้นจากเหตุลอบสังหารราวปาฎิหาริย์มา 2 ครั้งในช่วงการณรงค์หาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนียในเดือนก.ค.และเหตุลอบสังหารที่สนามกอล์ฟของนายทรัมป์ที่รัฐฟลอริดาในเดือนก.ย. พร้อมวิจารณ์ พรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ใช้วิธีการต่างๆที่สกปรก (เช่น การฟ้องคดีอาญา) หวังสกัดนายทรัมป์ไม่ให้ชนะเลือกตั้ง พร้อมวิจารณ์ประธานาธิบดีไบเดนว่า ทำความลำบากใจเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลใหม่ของนายทรัมป์ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
นอกจากนี้ นายปูตินขู่จะใช้อาวุธใหม่รุ่นโอเรชนิก ที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ เพื่อโจมตียูเครน ต่อเนื่องจากการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตียูเครนระลอกใหญ่เมื่อคืนวันพุธ เพื่อทำลายโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ชาวบ้านกว่า 1 ล้านคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้เนื่องจากไฟฟ้าดับ ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์เคยกล่าวในช่วงการณรงค์หาเสียงว่า ภารกิจแรกๆที่เขาจะทำคือ การหาทางยุติสงครามในยูเครน แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร เพื่อยุติสงครามยูเครน
#ผู้นำรัสเซีย
#ชื่นชมทรัมป์
#สงครามยูเครน