วันนี้ชาวบ้านตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี จำนวนกว่า 50 คน ได้เดินทางมาร้องเรียนกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาลให้ยับยั้งการสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะเชียงรากใหญ่ โดยว่าที่ร้อยตรี ทวีศักดิ์ อินกว่าง แกนนำกลุ่มชาวบ้าน เปิดเผยว่า พื้นที่ตำบลเชียงรากใหญ่ไม่เหมาะสมกับการสร้างโรงงานฯ เนื่องจากอยู่ใกล้โรงสูบน้ำดิบสำแล ซึ่งสูบน้ำส่งต่อไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพียง 1.5 กิโลเมตร และอยู่ใกล้โรงสูบน้ำดิบปะปาส่วนภูมิภาค เพื่อให้คนปทุมธานีบริโภคเพียง 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์แหล่งน้ำดิบเพื่อบริโภคตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2522 และ 2531 อยู่ใกล้กับหมู่บ้านอธิเชษฐ์เพียง 127 เมตร ใกล้กับชุมชนวัดตระพัง วัดเวฬุ วัดสำแล วัดดาวเรือง วัดบัวหลวง ใกล้มหาวิทยาธรรมศาสตร์ รังสิต โรงพยาบาลสามโคก และหน่วยงานอื่นๆ อีกมาก อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 2.3 เมตร เกิดน้ำท่วมทุกปี จึงเกรงว่าเมื่อเกิดน้ำท่วม ประชาชนในพื้นที่จะได้รับผลกระทบร้ายแรงจากสารเคมีและอันตรายต่างๆ รวมทั้งจากการสำรวจของนักวิชาหลายๆ ท่าน ได้ยืนยันว่าพื้นที่ตรงส่วนนี้ไม่เหมาะสมที่จะทำโรงงานกำจัดขยะอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ชาวบ้านยังพบว่าข้าราชการจังหวัด ปลัด และนักการเมืองท้องถิ่น มีพฤติกรรมรับสินบนจากนายทุน มีการลาหยุดงานพร้อมกันทั้งจังหวัดเพื่อไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับเงินสนับสนุนจากนายทุน เมื่อเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ก็ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า บิดเบือนและปกปิดข้อมูลข่าวสาร แต่กลุ่มนายทุนกลับอ้างว่าได้ทำประชาพิจารณ์แล้ว ขณะเดียวกันได้เข้ามาเผาหญ้าเพื่อเปิดหน้าที่ดินซึ่งเดิมเป็นที่นาจำนวนกว่า 145 ไร่ 3 งาน 43 ตารางวา เตรียมก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เมื่อประชาชนจะเคลื่อนไหว ทางหน่วยงานราชการกลับติดประกาศห้ามประชาชนเคลื่อนไหวคัดค้าน และที่สำคัญคือ นายวิรัตน์ บุญเหลือ ชาวบ้านในพื้นที่ที่เคลื่อนไหวประเด็นนี้ ได้ถูกเจ้าหน้าที่อบต. เชียงรากใหญ่ จำนวน 5 คน รุมทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ. สามโคก แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เมื่อร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี อุตสาหกรรม สำนักงานสิ่งแวดล้อม และโยธาธิการจังหวัด เมื่อวันที่ 25 พ.ค. แต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกเพิกเฉยอีกด้วย จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีให้ความเป็นธรรมคุ้มครองชาวบ้านจากอิทธิพลมืด
...ผสข.สมจิตร์ พูลสุข