นายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียว่า ระบบติดต่อสื่อสารสายด่วนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯกับประธานาธิบดีรัสเซียต่อสายพูดคุยกันในกรณีเกิดเหตุวิกฤต ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ไม่สามารถใช้การได้ตามปกติในขณะนี้ โดยนายเปสคอฟพูดประเด็นนี้ หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย สั่งให้ปรับปรุงเงื่อนไขควบคุมการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อสกัดกั้นการร่วมโจมตีรัสเซียโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรัสเซียได้ถามนายเปสคอฟว่า ในระยะหลังๆมานี้ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย และ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯเคยต่อสายคุยกันทางโทรศัพท์ เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างประเทศทั้งสองหรือไม่ นายเปสคอฟ ตอบว่า ผู้นำทั้งสองไม่เคยต่อสายพูดคุยทางระบบสื่อสารสายด่วนมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ครั้งหลังสุดที่นายปูติน ต่อสายคุยโทรศัพท์กับนายไบเดน คือ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2565 หรือ เพียงไม่กี่วันก่อนรัสเซียบุกยูเครน
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ระบบติดต่อสายด่วนระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯเริ่มจัดตั้งครั้งแรกในปี 2506 หรือหนึ่งปีหลังเกิดวิกฤตเนื่องจากรัสเซียต้องการจะเข้าไปติดตั้งขีปนาวุธในคิวบา ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสหรัฐฯ ครั้งนั้น สหรัฐฯแสดงความไม่พอใจรัสเซียจนถึงขั้นเกือบใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีกันครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีการติดตั้งระบบสื่อสารสายด่วนให้ประธานาธิบดีจากทั้งสองประเทศพูดคุยกัน เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาวิกฤต
นอกจากนี้ การที่รัสเซียอัพเดทเอกสารควบคุมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ มีขึ้นไม่กี่วันหลังรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากสหรัฐฯเพื่อโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทั้งๆที่ ก่อนหน้านี้ นายไบเดนแสดงท่าทีอิดออด ไม่อนุมัติคำร้องเรื่องนี้จากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน มาหลายเดือน
#สหรัฐรัสเซีย
#ระบบสื่อสารสายด่วน