สหรัฐฯสั่งปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ ของยูเครน หวั่นถูกโจมตีจากรัสเซีย

          สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำนักงานกงสุล กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในแถลงการณ์ในวันนี้(20 พ.ย.)ว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯสั่งปิดสถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงเคียฟ ยูเครน ชั่วคราวตั้งแต่วันนี้(20 พ.ย.) เป็นต้นไป พร้อมแนะนำให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตให้หลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัย หวั่นเกรงจะตกเป็นเป้าการถูกโจมตีจากรัสเซีย พร้อมแนะนำชาวอเมริกันในยูเครนให้เข้าไปยังหลุมหลบภัยโดยทันทีในกรณีมีสัญญาณเตือนภัยว่าเกิดเหตุโจมตีทางอากาศจากรัสเซีย

          ก่อนหน้านี้ ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ 2 คนของสหรัฐฯว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯได้อนุมัติให้มีการส่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (anti-personnel mines)เข้าไปยังยูเครนเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้(19 พ.ย.) เพื่อให้ยูเครนใช้สู้รบกับรัสเซียในพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ เนื่องจากกองทัพรัสเซีย รุกคืบมากขึ้นในการยึดดินแดนมาจากยูเครน โดยสหรัฐฯหวังจะให้ยูเครนใช้ทุ่นระเบิดดังกล่าว เสริมแนวป้องกันในพื้นที่ชายแดนของยูเครน ห้ามนำไปใช้ในอาณาเขตของรัสเซียโดยตรง พร้อมกำชับยูเครนให้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่พลเรือนเข้าไปเหยียบกับระเบิดโดยอุบัติเหตุ

          นับเป็นการเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ครั้งที่สองของสหรัฐฯเกี่ยวกับสงครามในยูเครน เพียงไม่กี่วันหลังอนุญาตเมื่อวันอาทิตย์(17 พ.ย.)ให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลจากสหรัฐฯโจมตีเป้าหมายต่างๆในรัสเซีย ซึ่งป็นการเปลี่ยนนโยบายสำคัญเป็นครั้งแรก หลังถูกลอบบี้มาหลายเดือนจากประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ทั้งนี้ สงครามในยูเครนซึ่งยืดเยื้อมากว่าหนึ่งปี ทำให้รัสเซียสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก โดยยูเครนอ้างว่า รัสเซียสูญเสียทหารจำนวนมากในสัปดาห์นี้ แต่ความเข้มแข็งของกองทัพรัสเซีย ประกอบกับกองทัพยูเครนเองประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ ทำให้กองทัพรัสเซียรุกคืบยึดดินแดนจากรัสเซียมากขึ้นเรื่อยๆในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน

#สหรัฐ

#ปิดสถานทูตในยูเครน

#สงครามยูเครน