เมืองไทยฯ(1):ครม.ประชุมปราบปรามการทุจริต/สปช.ลดประเด็นวาระปฏิรูปประเทศ/สนง.สลากแบ่งโควต้าสลากใหม่

16 มิถุนายน 2558, 07:39น.


การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้มีวาระน่าสนใจ อาทิ การปราบปรามการทุจริต และการขยายเวลาโครงการและเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำของกรมทางหลวง ตลอดจนความคืบหน้าโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอี  4,100 ล้านบาท



ส่วนพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรียุติธรรม จะเข้าหารือกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากลุ่มจักรยานยนต์



ด้านแผนการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในโครงการความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างจีนกับไทย ที่มีการลงนามกู้เงินจากจีนเพื่อลงทุนเองในเส้นทางรถไฟ สายหนองคายโคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด (ความยาว 734 กม.) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลัง ท้วงว่า โครงการนี้เคยมีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างไทยและจีนเพื่อลงทุนร่วมกัน ซึ่งจะต้องมีการติดตามว่า เหตุใดรัฐจึงรับภาระนี้ไว้เอง



เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีเราะห์ ระบุว่า รัฐบาลทำงานมาครบ 1 ปีแล้วและแก้ไขปัญหาหลายเรื่องที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งจะไม่ทำเพราะเกรงว่าจะเสียคะแนนเสียง ทั้งกล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองเหมาะสมที่จะเข้ามาบริหารประเทศ แต่เป็นเพราะสถานการณ์ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม2557 ที่มีความขัดแย้งจนประเทศไม่เดินหน้า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นศัตรูกับกลุ่มการเมืองกลุ่มต่างๆ และจะทำหน้าที่ไม่เกิน 2 ปี



ด้านการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งมีการประชุมภายใน นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. หารือเกี่ยวกับการที่ ที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ให้สปช.ต้องสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งนายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปช. ในฐานะโฆษก กมธ. วิสามัญกิจการ สปช. (วิป สปช.) เปิดเผยว่า นายเทียนฉาย กำชับให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญของสปช.ทั้ง 18 คณะที่กำลังพิจารณาเรื่องการปฏิรูปประเทศในด้านต่าง ๆ จะต้องทำงานให้เสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ สปช.พิจารณาในช่วงเดือนกรกฎาคมเพราะ สปช.เหลือเวลาทำงานประมาณ 2 เดือนเท่านั้น และนายเทียนฉาย นัดประชุมเป็นการภายในอีกครั้ง ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้



ทั้งนี้ ที่ประชุมสปช.ยังเห็นว่าควรลดประเด็นวาระการปฏิรูปประเทศจาก 36 ประเด็นให้เหลือ 5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาการทุจริต การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปตำรวจ ซึ่งต้องในลักษณะของการวางรากฐานในอนาคต และลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างสังคมที่เป็นธรรม



นอกจากนี้ ที่ประชุม สปช.ยังรับทราบรายงาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง เสนอให้เลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญูปี 50 และเสนอให้เพิ่มกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) จาก 5 คนให้เป็น 7 คน



ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง



ประเด็นที่มีการพูดถึงกันมากจากการประชุมสปช.เมื่อวานก็คือ กลุ่มสปช.รักชาติ ที่นำโดย พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย แถลงข่าวเสนอให้มีการเปิดบ่อนการพนัน หรือกาสิโนถูกต้องตามกฎหมายในประเทศ เพื่อไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศ และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับเปิดการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปลายปีนี้



ขณะที่การประชุมของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ ได้อนุมัติให้ออกรางวัล 3 ตัวหน้า จำนวน 2 รางวัล ที่สามารถเริ่มในงวดวันที่ 1 กันยายนนี้ โดยลดรางวัล 3 ตัวท้ายเหลือ 2  รางวัล ซึ่งใช้อัตราเงินรางวัลเท่ากับการออกรางวัล 3 ตัวท้ายเดิม โดยจะไม่กระทบกับสัดส่วนเงินรางวัลที่ร้อยละ 60  และให้จัดพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลทดแทนการพิมพ์สลากการกุศล 22 ล้านฉบับ ที่จะหมดอายุก่อนงวดวันที่ 1 กันยายนนี้ เนื่องจากครม.ยังไม่มีมติให้พิมพ์สลากการกุศล จึงต้องนำสลากเข้ามาทดแทนให้ครบ 74  ล้านฉบับต่องวด



นอกจากนี้ยังมีมติจัดสรรสลาก 22 ล้านฉบับให้กับรายเดิม แต่จะเปลี่ยนการจัดสรรและเวลาการทำสัญญา หากเป็นมูลนิธิ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับผู้พิการจะได้รับการจัดสรรตามเดิม แต่ถ้าเป็นสมาคม, มูลนิธิ, นิติบุคคล ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมาคมผู้พิการ จะถูกตัดโควตาลงร้อยละ 30-50 ทั้งกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ค้าต้องมาสัญญาใหม่เพียง 4 เดือนเท่านั้น จากเดิม 2 ปี



ด้านความคืบหน้าของนักศึกษาไทย 5 คนที่ถูกตำรวจปากีสถานจับกุมหลังจากถูกตรวจพบพยายามซุกซ่อนอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานเมืองละฮอร์ ซึ่งนายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัด และเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล กำลังประสานงานกับทางปากีสถานในการให้ความช่วยเหลือและดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยหลักการพกพาอาวุธเข้าอากาศยานเป็นความผิดอยู่แล้ว ไม่ว่าบุคคลนั้นจะจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม รวมถึงจะรับฝากด้วย



 



*-*

ข่าวทั้งหมด

X