กฟผ. จัดสัมมนานวัตกรรมงานวิจัย ขณะที่นักวิชาการระบุไทยมีแนวโน้มการเติบโตลดลง

15 มิถุนายน 2558, 12:27น.


การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนา EGAT R&D Forum 2015 แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกิดจากผลงานวิจัย พร้อมเผยแพร่ความรู้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ ถือเป็นครั้งแรกที่งานจัดนอกสถานที่ เนื่องจากมีผู้ให้ความสนใจมากขึ้นทุกปี โดยนายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. เปิดเผยว่า งานสัมมนาจัดขึ้นภายใต้รูปแบบ Smart Innovation for Thai Happiness ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการ และการบรรยายให้ความรู้เรื่องงานวิจัย แบ่งเป็น 3 แนวทาง ประกอบด้วย "งานวิจัยเพื่อสังคมและชุมชน" นำเสนอผลงานวิจัยเพื่อมุ่งสู่การผลิตไฟฟ้าที่ปราศจากของเสีย โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตามแนวคิด Mae Moh Zero Waste Concept ที่ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการทำเหมือง การผลิตไฟฟ้า และการนำขี้เถ้าที่เป็นของเสียจากการผลิตไฟฟ้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อมา"งานวิจัยเพื่อการผลิตและส่งไฟฟ้า" นำเสนอการพัฒนาหุ่นยนต์ตรวจสอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ท่อ และผนังภายในหม้อไอน้ำ รวมถึงการสำรวจแนวสายส่งไฟฟ้าทางอากาศด้วยเทคโนโลยีไลดาร์ และการพัฒนาระบบควบคุมสถานีไฟฟ้าแรงสูงระยะไกล สำหรับส่วนสุดท้าย เป็น"เทคโนโลยีสำหรับอนาคต" นำเสนองานวิจัยบ้านยุคดิจิตอล ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัน ที่จะมีการปรับระบบไฟฟ้าจากกระแสสลับ(AC) มาเป็นการผลิตไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ใช้เองภายในบ้าน โดยการติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์  เพื่อลดค่าใช้จ่ายและความสูญเสียจากการส่งไฟฟ้า และมีระบบเทคโนโลยีการสื่อสาร Smart Devices ด้วย ทั้งนี้ กฟผ. ให้ความสำคัญและส่งเสริมงานวิจัยเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา กฟผ. ได้สนับสนุนโครงการวิจัยจำนวน 220 โครงการ คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 1,400 ล้านบาท


 


ขณะที่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยยังยึดอยู่กับการส่งเสริมอุตสาหกรรมการใช้แรงงาน และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นมากเกินไป ต่างกับในต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านงานวิจัยที่สามารถนำกลับไปพัฒนาอุตสาหกรรมได้ เช่น งานวิจัยด้านการคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ และงานวิจัยที่สามารถลดต้นทุนด้านพลังงานให้กับภาคอุตสาหกรรม แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลจะตั้งเป้าลงทุนในงานวิจัยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ1 ของจีดีพีปีหน้า แต่อาจยังเป็นไปได้ยากเพราะยังไม่มีมาตรการในการกำหนดแนวทาง ซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตลดลง


 


..ผสข.อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์
ข่าวทั้งหมด

X