กาตาร์ระงับการเป็นคนกลางเจรจาหยุดยิง ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส

          กระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ออกแถลงการณ์ วานนี้ (9 พ.ย.67) ระบุว่า กาตาร์ได้ระงับการทำงานในฐานะคนกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ทำหน้าที่เจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา และการเจรจาปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ระบุในแถลงการณ์ว่า กาตาร์แจ้งไปยังอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เมื่อเดือนตุลาคมแล้ว ว่าจะระงับการทำหน้าที่เป็นคนกลาง หลังจากล้มเหลวต่อความพยายามเป็นนายหน้า ในการเจรจาหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา มาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี

          โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ระบุด้วยว่า กาตาร์จะกลับมาทำหน้าที่เป็นคนกลางอีกครั้ง เมื่ออิสราเอลและกลุ่มฮามาสแสดงความเต็มใจและความจริงจัง ที่จะยุติความขัดแย้งนี้ อีกทั้งระบุว่า เป้าหมายหลักของกาตาร์ คือ การเป็นช่องทางของการติดต่อสื่อสารระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และช่องทางนี้มีส่วนทำให้บรรลุการหยุดยิงในช่วงต้นที่ผ่านมา ขณะที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานวานนี้ (9 พ.ย.67) ว่า กาตาร์เห็นพ้องกับสหรัฐฯ ในการแจ้งกลุ่มฮามาสให้ปิดสำนักงานการเมืองของกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮาของ กาตาร์ เนื่องจากปฏิเสธที่จะเจรจาด้วยการมีศรัทธาที่ดี   

           ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ยอมรับอีกต่อไป ในการมีอยู่ของตัวแทนของกลุ่มฮามาสในกาตาร์ และกล่าวหากลุ่มฮามาสว่า ปฏิเสธข้อเสนอครั้งใหม่ในการยุติการสู้รบในฉนวนกาซา ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา ระบุว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 43,500 คน ในฉนวนกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการสู้รบ เพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสที่โจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และเชื่อว่ายังมีอีก 10,000 ราย ที่เสียชีวิต รวมทั้งยังมีผู้คนอีกมากที่สูญหาย ภายใต้ซากความเสียหายจากการสู้รบ นอกจากนี้ ยังคงมีตัวประกัน 101 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัว

#การ์ต้า