ผู้นำประเทศสหภาพยุโรปร่วมประชุมสุดยอดประชาคมการเมืองยุโรป ที่กรุงบูดาเปสต์ ฮังการี เพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสหรัฐอเมริกา หลังจากที่รับทราบว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย หลังจากที่ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก เขาดำเนินนโยบายที่มีข้อขัดแย้งกับสหภาพยุโรปในหลายเรื่อง ทั้งประกาศว่าจะไม่ปกป้องพันธมิตรในยุโรป เว้นแต่จะเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อการป้องกันประเทศของตนเอง นอกจากนี้ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ยังกล่าวว่าจะหยุดสงครามในยูเครนภายในไม่กี่ชั่วโมง และยังมีนโยบายภาษีศุลกากรที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในยุโรป
ผู้นำสหภาพยุโรปเรียกร้องให้มีการดำเนินการที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นเพื่อปกป้องตนเองและสนับสนุนยูเครน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวต่อที่ประชุมว่า ชัยชนะของนายทรัมป์มีความสำคัญอย่างมากสำหรับยุโรป แต่ก็ไม่ควรดำเนินนโยบายความมั่นคงที่พึ่งพิงสหรัฐอเมริกาตลอดไป เนื่องจากนายทรัมป์ได้รับเลือกโดยชาวอเมริกันก็ย่อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกา จึงไม่ใช่หน้าที่ของผู้นำสหภาพยุโรป ที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่มีหน้าที่สำคัญคือการปกป้องผลประโยชน์ของยุโรป
นายชาร์ล มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป แสดงความเห็นด้วยกับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเห็นว่าทวีปยุโรปต้องลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
ส่วนนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและผู้นำคนอื่นๆ พูดถึงความสำคัญของการสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านรัสเซียในสงครามที่เข้าสู่ปีที่ 3 โดยมีการแสดงความกังวลว่า คำมั่นที่จะยุติสงครามยูเครนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จะไม่ได้นำมาซึ่งข้อตกลงสันติภาพภายใต้เงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และการที่ยูเครนต้องยอมสละดินแดน
พันธมิตรยุโรปในนาโต คาดหวังว่านายทรัมป์จะมีเงื่อนไขการเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่ดีต่อยูเครนและสหรัฐอเมริกา ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ซึ่งโทรศัพท์พูดคุยกับนายทรัมป์ก่อนหน้านี้ บอกกับผู้สื่อข่าวในบูดาเปสต์ว่า ยุโรปและสหรัฐฯ ต่างต้องอาศัยกันและกัน และยอมรับว่า เขายังไม่ทราบทิศทางนโยบายของนายทรัมป์ แต่มีความกังวลว่า การยุติสงครามอย่างรวดเร็วจะไม่ได้หมายถึงความสูญเสียของยูเครน
….
#การเมืองยุโรป
#สหรัฐอเมริกา
#ยูเครน
#โดนัลด์ทรัมป์