กรณีตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง จับกุมผู้ต้องหา 7 ราย เป็นตำรวจ 6 นาย สังกัด กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(บก.สอท.1) และพลเรือน 1 ราย ประกอบด้วย พ.ต.ท.ชนะชัย อายุ 41 ปี ร.ต.อ.อำนวย อายุ 42 ปี ด.ต.ชยพล อายุ 43 ปี ด.ต.พรเทพ อายุ 46 ปี ด.ต.มนัสวี อายุ 41 ปี ด.ต.สยาม อายุ 49 ปี นายธวุท อายุ 43 ปี ร่วมกันก่อเหตุใช้หมายค้นบุกตรวจค้นบ้านในหมู่บ้านย่านบางนา 2 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับ นายไซ สัญชาติวานูอาตู พร้อมด้วยภรรยา และคนจีน และแม่บ้านรวม 5 คน ข่มขู่กรรโชกทรัพย์เรียกรับเงิน 300 ล้านบาท หรือ เงินสกุลดิจิทัล จำนวน 10 ล้าน USDT (1USDT เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 บาท) เพื่อแลกกับการจบคดีและไม่ถูกดำเนินคดี เป็นการจัดฉากปลอมหมายค้น คดีพาสปอร์ตปลอม
ในชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหา ในข้อหา ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่,ร่วมกันสนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,ร่วมกันกรรโชก ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอให้การภายหลังเป็นหนังสือเป็นเวลา 15 วัน ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยมีเงินสดและที่ดินเป็นหลักประกัน และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นสอบสวน
คดีดังกล่าวนี้ อยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนการสอบสวน ให้ ป.ป.ช.ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่รับคำร้องทุกข์ สำหรับผู้ต้องหาอีก 2 ราย ที่ยังคงหลบหนี คือ น.ส.อภัสรา กับ นายหยุน ได้ให้ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และ บก.สส.บช.น. ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
คดีนี้ผู้เสียหายทั้งหมด เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ธรรมสีเทา สว.(สอบสวน)สน.บางซื่อ ปฏิบัติราชการ สน.ทุ่งสองห้อง ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงเอกสารอ้างว่าเป็นหมายการเข้าค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการขอเข้าตรวจสอบ ซึ่งผู้เสียหายและบุคคลภายในบ้านไม่สามารถอ่านและเขียนภาษาไทย เห็นแต่เอกสารดังกล่าวมีตราครุฑ จึงเชื่อว่าเป็นเอกสารของราชการจริงและยินยอมให้เข้าค้นบ้านพักอาศัยหลังดังกล่าว ผู้ต้องหาได้อ่านหมายและให้ล่ามแปลภาษา ชื่อว่า น.สอภัสรา ทราบชื่อภายหลัง แปลภาษาสื่อสารกับผู้เสียหาย โดยในการเข้าตรวจค้นผู้ต้องหากับพวกได้ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดโดยอ้างว่ามีผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์จำนวน 4 ราย โดย 1 ใน 4 รายนั้นได้ให้การซัดทอดว่านายไซ หรือ MR.SAI มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมหนังสือเดินทางซึ่งถูกจับและถูกดำเนินคดีต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้ว
#แก๊งตำรวจรีดทรัพย์