รองนายกฯ ยืนยันตร.ไม่ทิ้งคดีดิไอคอน –ดีเอสไอ ประชุมรับพิจารณาเป็นคดีพิเศษหรือไม่

29 ตุลาคม 2567, 14:21น.


          นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดี ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า ตำรวจได้ส่งมอบสำนวนคดีให้กับดีเอสไอแล้ว จะต้องขอดูรายละเอียดก่อนเนื่องจากขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ขณะนี้ทุกส่วนได้ประสานงานกันหมดแล้ว ทั้ง ปปง. ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เป็นต้นเรื่องในการรวบรวมหลักฐาน และสอบพยานมาพอสมควรแล้ว



           นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทั้งนี้ เนื่องจากคดีเป็นคดีที่เข้าเงื่อนไขในการส่งมอบให้ดีเอสไอ เนื่องจากวงเงินความเสียหายเกิน 300 ล้านบาท และจำนวนผู้เสียหายนับพันราย เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการดำเนินการเข้าสู่การเป็นคดีของดีเอสไอ แต่ว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ ปปง. ได้เรียนไปแล้วว่าเป็นผลงานร่วมกันนั้นเพราะฉะนั้นไม่ได้ทิ้งคดี ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรขอรอให้ส่งมอบกันให้เรียบร้อย แล้วข้อมูลต่างๆ ก็จะนำมาดำเนินการและต่อเนื่องได้



          ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ในช่วงหลังเริ่มมีบุคคลถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าคดีจะยืดเยื้อหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก็เป็นไปตามข้อเท็จจริง มีมากหรือน้อยก็แล้วแต่ผลการสอบสวน ถ้าเกี่ยวโยงไปถึงใครมันก็มีความคืบหน้าเกี่ยวพันไปถึงตรงนั้น ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย



             โดยในวันนี้ จะมีการเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการรับคดีพิเศษตามระเบียบฯ จึงมีการนัดหมายประชุมในวันที่ 29 ต.ค. เวลา 09.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ ผอ.กองกฎหมาย ผู้แทนของกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และผู้สืบสวนสอบสวนของสำนักงานแห่งชาติ ร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาและเสนอความเห็นต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ



            นอกจากนั้น ในวันนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่า จะทำหนังสือถึงดีเอสไอ ขอเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียหายมาเป็นผู้ต้องหาร่วมกัน เบื้องต้น มีนายทินภัทร หรือฮัท, น.ส.ชลธิชา หรือลูกตาล, นายไกรภพ หรือกบ ไมโคร, น.ส.หนึ่งฟ้า และ น.ส.อโณทัย รวม 5 คน โดยจะเข้าไปยื่นหนังสือที่กรมสอบสวนคดีพิเศษในวันนี้ (29 ต.ค.)



          สำหรับทั้ง 5 คน เป็นแม่ข่ายที่มีลูกทีมมากกว่าร้อยคน และมีพฤติการณ์ชักชวนให้มาร่วมลงทุนเปิดบิลซื้อสินค้า 250,000 บาท โดยที่ผู้ต้องขังทั้ง 18 คน ไม่ทราบรายละเอียด และยืนยันว่าการทำหนังสือขอเปลี่ยนสถานะไม่ใช่การข่มขู่



 



#ดิไอคอนกรุ๊ป



#คดีพิเศษ



 

ข่าวทั้งหมด

X