ความคืบหน้าการเมืองญี่ปุ่น หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวานนี้(27 ต.ค.67) และการนับคะแนนเสร็จแล้ว
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานผลการนับคะแนน
-พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ชนะเลือกตั้ง ได้สส. รวม 191 ที่นั่ง ลดลงจากเดิม 256 ที่นั่ง
-ขณะที่ พรรคแกนนำฝ่ายค้านคือ พรรคประชาธิปไตยแห่งรัฐธรรมนูญ(ซีดีพี)ของอดีตนายกรัฐมนตรีโนดะ โยชิฮิโกะ รั้งอันดับที่ 2 ได้ที่นั่งสส.จำนวน 148 ที่นั่ง เพิ่มจากเดิม 98 ที่นั่ง
-พรรคร่วมรัฐบาลเดิม คือ พรรคแอลดีพี(มีที่นั่งสส. 191 ที่นั่ง)และพรรคโคเมโตะ(มีที่นั่งสส.24 ที่นั่ง) มีจำนวนสส.รวม 215 ที่นั่งจากทั้งหมด 465 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่น ลดลงจากเดิมคือ 288 ที่นั่ง ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมมีที่นั่งสส.ต่ำกว่าเกณฑ์คะแนนสำหรับการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรคือ 233 เสียง แต่นายอิชิบะแสดงความหวังที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม พร้อมทั้งจะเดินหน้าทาบทามพรรคอื่นๆเข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พร้อมทั้งให้คำมั่นจะนำนโยบายต่างๆจากพรรคร่วมทุกพรรคมารวมกัน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารประเทศอย่างมีเสถียรภาพ
เป็นครั้งแรกที่พรรค แอลดีพี พรรคอนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่น ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในสภานับตั้งแต่ปี 2552 หรือในรอบ 15 ปี ที่ผ่านมา พรรคแอลดีพี บริหารประเทศต่อเนื่องมาตลอดนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคในปี 2498 หลังจากที่นายอิชิบะ รับตำแหน่งนายกฯคนใหม่เมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 ผ่านไป 8 วัน ได้ประกาศยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 27 ต.ค.67
นักวิเคราะห์ คาดว่า พรรคซีดีพี อาจจะจับมือกับพรรคฝ่ายค้านเดิม ซึ่งประกอบด้วยสส.แนวคิดเสรีนิยมและกลุ่มสส.แนวคิดขวาจัด เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมแข่งกับพรรคแอลดีพี เช่นกัน แต่อาจจะมีปัญหาในการเจรจามากกว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเนื่องจากมีแนวนโยบายที่แตกต่างกัน
ทิศทางการเมืองของญี่ปุ่นในช่วงหลังการเลือกตั้งยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ เนื่องจากมีพรรคฝ่ายค้านเดิมบางพรรคปฏิเสธที่จะจับมือกับพรรครัฐบาลเดิม
นักวิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตว่า ผลการเลือกตั้งที่แย่กว่าเดิมสำหรับพรรคร่วมรัฐบาล สะท้อนให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่น เริ่มหมดความไว้วางใจพรรคแอลดีพี จากกระแสอื้อฉาวการทุจริตเงินบริจาคทางการเมืองในพรรค หลังบริหารประเทศมาตั้งแต่ปี 2555 ทำให้พรรคแกนนำฝ่ายค้านคว้าที่นั่งสส.เพิ่มขึ้น
#การเมืองญี่ปุ่น
Cr.Kyodo