ส่อเปลี่ยนขั้ว พรรครัฐบาลญี่ปุ่น ได้เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ไม่สามารถครองเสียงในสภาฯได้

         การเลือกตั้งสส.ในญี่ปุ่นรวม 465 ที่นั่ง ผู้สมัครกว่า 1,300 คน เมื่อวันอาทิตย์(27 ต.ค.67) เป็นไปตามความคาดหมาย และผลสำรวจความคิดเห็น ที่ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมคือ พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และพรรคโคเมโตะ ไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้ จากปัญหาทุจริตอื้อฉาวเกี่ยวกับเงินบริจาคการเมืองในพรรคแอลดีพีและปัญหาเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อสูงและค่าครองชีพแพง หลังบริหารประเทศมา 10 ปีติดต่อกัน

        ก่อนการเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลเดิม มีสส.รวม 279 เสียง สูงกว่าเกณฑ์คะแนนในการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรคือ 233 เสียง ขณะที่ พรรคแกนนำฝ่ายค้าน (ซีดีพี)มีสส.รวม 98 เสียง

        NHK รายงานว่า เมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้นไปได้ 90% ของเขตเลือกตั้งทั้งหมดแล้ว ปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ได้ที่นั่งแล้วเพียงแค่ 192 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 465 ที่นั่งของสภาล่าง ชัดเจนแล้วว่าได้เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง คือต้องได้อย่างน้อย 233 ที่นั่ง ส่วนพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด ซีดีพี ได้ 135 ที่นั่ง พุ่งพรวดขึ้นจากคราวก่อนที่ได้เพียง 98 ที่นั่ง

         นายอิชิบะ มีสีหน้าเคร่งเครียดและกล่าวว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ยากลำบาก เนื่องจาก คะแนนเสียงที่ได้รับยังไม่ถึงเสียงกึ่งหนี่งที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และดูเหมือนว่าไกลเกินเอื้อม เนื่องจากไม่สามารถทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ จากปัญหาเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาว ส่งผลกระทบอย่างหนักกับพรรค เป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างหนักก่อนการเลือกตั้ง มากกว่าประเด็นด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง หรือเรื่องของสังคม ในส่วนตัว ยังให้ความสำคัญกับนโยบายของพรรคในการตัดสินใจว่าจะทำงานร่วมกับพรรคใด และยังมีความหวังว่าจะสามารถเป็นผู้นำรัฐบาลในการจัดตั้งรัฐบาลผสมต่อไป

        นายโนดะ โยชิฮิโกะ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งรัฐธรรมนูญ กล่าวในรายการข่าวของ NHK ว่า เป็นเรื่องจริงที่พรรคซีดีพี ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ขั้นตอนต่อไป คือ การหารือกับพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุด

        สำนักข่าวเกียวโด ประมาณการว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ร้อยละ 53.81 ลดลงประมาณร้อยละ 2 จากการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อปี 2021 และน่าจะเป็นจำนวนที่ต่ำเป็นอันดับสามในยุคหลังสงคราม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งแต่ละคนจะลงคะแนนเสียง 2 ครั้ง ครั้งแรกเพื่อเลือกผู้สมัครจากเขตเลือกตั้งที่มีที่นั่งเพียงที่นั่งเดียว และอีกครั้งหนึ่งเพื่อเลือกพรรคการเมืองในระบบสัดส่วน คาดว่า ผลการเลือกตั้งขั้นสุดท้ายจะชัดเจนภายในเช้าวันนี้ (28ต.ค.67)

        การรับตำแหน่งนายกฯของนายอิชิบะ ต่อจากนายฟูมิโอะ คิชิดะ ที่ประกาศว่าจะไม่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี ซึ่งก็คือ การลงจากตำแหน่งนายกฯ และเมื่อนายอิชิบะ มารับตำแหน่งนายกฯคนที่ 102 ของญี่ปุ่น เมื่อวันอังคารที่ 1 ต.ค. 67 และประกาศยุบสภา เลือกตั้งใหม่ การยุบสภาผู้แทนราษฎรนายอิชิบะเกิดขึ้นภายหลัง 8 วันจากการเข้ารับตำแหน่งและถือเป็นผู้นำหลังสงครามที่ยุบสภาเร็วที่สุด และจากผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น นายอิชิบะ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งกลับกลายเป็นผลเสีย

#เลือกตั้งญี่ปุ่น

Cr.NHK,Kyodo