การเมืองสหรัฐฯเริ่มเข้มข้นทุกขณะ ทั้งนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯในฐานะผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตและอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่เดียวกันคือ รัฐมิชิแกน เมื่อวานนี้(26 ต.ค.) หนึ่งใน 7 รัฐที่ผู้สมัครทั้งสองมีคะแนนสูสี และรัฐนี้ มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 15 เสียง ซึ่งอาจจะมีผลชี้ขาดผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 บีบีซีรายงานว่า นางมิเชลล์ โอบามา อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งและภริยาของนายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่เมืองคาลามาซู รัฐมิชิแกน เพื่อช่วยนางแฮร์ริสหาเสียง เป็นครั้งแรกในศึกเลือกตั้ง 2024 ขอให้ชาวอเมริกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้มากๆ เพื่อสกัดนายทรัมป์ไม่ให้กลับมาบริหารประเทศสมัยที่ 2
นางโอบามายอมรับว่า ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ ผู้สมัครทั้งสองมีคะแนนสูสีมาก ทุกคะแนนเสียงล้วนมีความสำคัญถึงขนาดชี้วัดผลเลือกตั้ง พร้อมชูนโยบายสิทธิ์การทำแท้งของสตรีเป็นประเด็นหลักในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมยกตัวอย่างประสบการณ์ของตัวเธอเองว่า ถูกห้ามทำแท้งในรัฐเท็กซัส ทำให้เธอเกือบเสียชีวิต พร้อมขอให้ชาวอเมริกันอย่าหลงเชื่อนายทรัมป์ นักการเมืองที่พูดจาโกหก นึกถึงแต่ประโยชน์ของตัวเอง ไม่เคยนึกถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับสาธารณชนในสหรัฐฯแม้แต่น้อย ด้านนางแฮร์ริสปราศรัยในทำนองเดียวกับนางโอบามา บอกกับกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเจน Z ว่า เธอเข้าใจว่า เหตุใดคนเจน Z ทนรอความเปลี่ยนแปลงต่างๆไม่ได้ ย้ำว่า เธออยากบอกทุกคนว่า เธอเห็นพลังในตัวคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐฯ
ส่วนเวทีหาเสียงอีกแห่งหนึ่งที่เมืองโนวี รัฐมิชิแกน ซึ่งอยู่ห่างในระยะขับรถราว 2 ชั่วโมง นายทรัมป์ได้ขึ้นเวทีหาเสียงประกาศจะช่วยเร่งพลิกฟื้นอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯให้เข้มแข้งอีกครั้ง พร้อมพูดเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง พลังงานและเศรษฐกิจ พร้อมทั้งพบปะตัวแทนชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ ซึ่งนายทรัมป์เชื่อว่า เป็นฐานเสียงสำคัญที่จะช่วยให้เขากลับมาชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ พูดคุยผ่านรายการ Joe Rogan Experience podcast ประกาศกร้าวว่า ไม่เชื่อถือใดๆ ในโพลต่างๆ และมั่นใจว่าตนจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยระหว่าง โดยนายทรัมป์กล่าวว่า ชัยชนะเมื่อปี 2016 สอนให้เขารู้ว่าโพลต่างๆ นั้นเชื่อถือไม่ได้ หลังจากคาดการณ์ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างขาดลอย
นายทรัมป์ ร่วมพูดคุยในรายการ podcast ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของรายการที่มีการออกอากาศสดในช่วงค่ำวันศุกร์ (25 ต.ค.) ถดึงดูดผู้ชมได้เกือบ 1 ล้านวิว ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมสูสีกับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากเดโมแครต ในขณะที่เหลือเวลาอีกแค่ 11 วัน ศึกเลือกตั้งก็จะมาถึง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกกับ โจ โรแกน ว่า "คอยดูแล้วกันว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมคิดว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะ ผมคิดว่านำหน้าอยู่ในตอนนี้ ผมคิดว่าเรานำหน้าอยู่"
นายทรัมป์บอกต่อว่า คุณก็รู้ถึงวิธีการทำโพล ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อโพลเหล่านั้นเท่าไหร่ ในปี 2016 ได้สอนบทเรียนแก่ผู้คนมากมายเกี่ยวกับการใช้โพลชี้นำที่ไม่ได้ผล ในศึกเลือกตั้งคราวนั้น โพลต่างๆ ยกให้ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของ ทรัมป์ มีโอกาสคว้าชัยชนะราวร้อยละ 70-ร้อยละ 99 เลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้ว ทรัมป์ กลับเป็นฝ่ายได้รับเลือกตั้งไป อย่างพลิกความคาดหมาย
#การเมืองสหรัฐ