เหตุการณ์รถบัสเกิดเหตุเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุด แถลงการณ์สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ เรื่อง ผู้ป่วยเด็กหญิง 14 ปี ได้รับผลกระทบจากกรณีรสบัสเกิดเหตุเพลิงไหม้ (ฉบับที่ 23) เนื่องจากผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี และเข้ารับการรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์นั้น
จากการตรวจรักษาของวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พบว่าอาการทั่วไปแข็งแรงดี บาดแผลไฟไหม้ส่วนใหญ่แห้งดี ไม่มีการติดเชื้อ ไม่พบปัญหาข้อติดยึด ด้านจิตใจผู้ป่วยมีอารมณ์คงที่ มีการจัดการอารมณ์ที่ดี พร้อมกลับบ้านในวันนี้ ทางทีมแพทย์ผู้ให้การรักษามีแผนการนัดติดตามดูแลอาการ และส่งต่อทีมเยี่ยมบ้านในพื้นที่ต่อไป
ส่วนการดำเนินคดี ในวันนี้ นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้นำครอบครัวผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อยื่นหนังสือขออำนาจกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบเเละฟ้องร้อง 4 หน่วยงานภาครัฐ เพื่อหาคนผิดจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว 4 หน่วยงาน ได้เเก่
1.ขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี
2.วิศวกรหรือช่างที่ตรวจสอบคุณภาพของถังแก๊สในรถบัสดังกล่าว
3.สำนักงานพลังงานจังหวัดสิงห์บุรี ถึงการติดถังแก๊สบนรถบัสคันเกิดเหตุที่เกินกฎหมายกำหนดนั้นสอบอยู่เเล้วหรือไม่ และ
4.กรมอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดในหน่วยงานเหล่านี้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ม.157 หรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้เอาผิดทั้งทางอาญาเเละทางแพ่ง
ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ไม่เคยติดต่อมาหาผู้ปกครองหรือครอบครัวของเด็กที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเลย
เบื้องต้นตอนนี้ผู้ปกครองหรือครอบครัวได้รับเงินเยียวยาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.), กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), สำนักงานกระทรวงยุติธรรมจังหวัด ประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนกรณีคนที่บาดเจ็บนั้นได้ประมาณคนละกว่า 1 ล้านบาท เกือบ 2 ล้านบาท
ด้านผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ กล่าวว่า อยากขอให้ทุกหน่วยงานช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความเป็นธรรมให้กับกรณีที่เกิดขึ้น โดยทุกวันนี้ ยังเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียลูก
#ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา