เลือกตั้งสหรัฐ! ปัจจัยหนุน ราคาทองคำโลก-ทองในประเทศ พุ่งทำสถิติสูงสุด

          ราคาทอง (96.5%) ในประเทศปิดวันนี้ขึ้นไปทำ All-time High อีกครั้ง โดยทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 43,750 บาท โดยระหว่างวันมีการปรับเปลี่ยนราคาทั้งหมด 13 ครั้ง เป็นการปรับขึ้น 12 รอบ ลดลง 1 รอบ รวม 700 บาท ตามราคาทองตลาดโลก

          สมาคมค้าทองคำ รายงานล่าสุด ณ เวลา 16.16 น. (ครั้งที่ 13) ทองคำแท่ง รับซื้อ 43,150 บาท ขายออก บาทละ 43,250 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 43,372.20 บาท ขายออก บาทละ 43,750 บาท บริษัท ฮั่วเซ่งเฮงโกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ภาพรวมการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time High ในวันนี้อีกครั้ง ทั้งทองโลกและทองไทย ซึ่งราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งคาดว่ามีโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ และความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

          นอกจากนี้ จีนได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง หลังจากที่ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอื่น ๆ ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

          ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,730 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันนี้ ส่วนราคาทองฟิวเจอร์พุ่งจ่อแตะ 2,750 ดอลลาร์

          ด้านนักวิเคราะห์ มองว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในไตรมาส 1 ของปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากหลากหลายปัจจัยในตลาด กรณีเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ในเดือนพ.ย. และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางของอังกฤษและยุโรปจะปรับลดดอกเบี้ยที่มากขึ้นอันเนื่องจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ได้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง ทำให้มีโอกาสที่เราจะเห็นราคาทองเข้าใกล้ 3,000 ดอลลาร์ และระดับนี้จะกลายเป็นเป้าหมายของราคาทองในไตรมาสแรกของปี 2568

          นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมทั้งความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. ด้านสมาคมตลาดทองคำแท่งแห่งลอนดอน (LBMA) คาดการณ์ว่าราคาทองจะแตะระดับ 2,941 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

#เลือกตั้งสหรัฐ