นายมาร์ค รุตเตอร์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ระบุผ่านเอ็กซ์ว่า หากเกาหลีเหนือ ส่งกองกำลังไปสู้รบในยูเครน ในนามของรัสเซียจริง จะถือเป็นการยกระดับความรุนแรงของความขัดแย้งขึ้นอย่างมาก รุตเตอร์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งผู้นำคนใหม่ของนาโตในเดือนนี้ กล่าวว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดียุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้เกี่ยวกับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างนาโตกับทางการเกาหลีใต้ โดยเน้นไปที่ความร่วมมือทางอุตสาหกรรมด้านกลาโหมและความมั่นคงที่เชื่อมโยงกันของภูมิภาคยูโร-แอตแลนติกและอินโด-แปซิฟิก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมส่งทหาร 10,000 นายมาช่วยรัสเซียในการทำสงคราม และเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือบางส่วนได้ถูกส่งไปประจำการยังดินแดนยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองแล้ว
ขณะเดียวกัน ชาติตะวันตกกล่าวหาเกาหลีเหนือมาเป็นเวลานานว่าเป็นผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รัสเซีย อย่างไรก็ตาม นายรุตเตอร์และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ต่างก็กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ยังไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือมีกำลังทหารอยู่ในยูเครน
ด้านเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาถึงกรุงเคียฟ ยูเครนเมื่อเช้ามืดวันนี้(21 ต.ค.) เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีและนายรุสเตม อูเมรอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน เพื่อหารือเรื่องแนวทางให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครนในปีหน้า(2568) หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 5 พ.ย.2567 พร้อมให้คำมั่นแก่ยูเครนว่า สหรัฐฯจะสนับสนุนยูเครนอย่างเนื่อง ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต หรืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน
#รัสเซียยูเครน
แฟ้มภาพ