เพจ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รายงานว่า ได้นำตัว 17 ผู้ต้องหา คดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จฯ ณ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ส่งศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุคดีมีโทษสูง มีผู้เสียหายจำนวนมาก
ในส่วนของ นายวรัตน์พลฯ บอสพอล เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยังสอบสวนต่อเนื่องอย่างเข้มข้น เนื่องจากเป็นผู้ต้องหารายสำคัญในคดี ซึ่งจำเป็นต้องสอบสวนเกี่ยวกับรายละเอียดในคดีอย่างรัดกุม ซึ่งเมื่อสอบสวนครบถ้วนจะนำผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลอาญาต่อไป
สำหรับ 17 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ทยอยขึ้นรถตู้ไปขอฝากขังศาลอาญา ได้แก่ บอสปัน, บอสโอม, บอสวิน, บอสจอย, บอสอ๊อฟ, บอสแม่หญิง, บอสปีเตอร์, บอสเอก, บอสอูมมี่, กันต์ กันตถาวร, มิน พีชญา, แซม ยุรนันท์, บอสทอมมี่, บอสสวย, บอสโชดา, บอสป๊อบ, โค้ชแล็ป ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนนายวรัตน์พล หรือบอสพอล ยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สอบสวนผู้ต้องหาเสร็จสิ้นแล้ว 17 คน จึงได้คุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ซึ่งทุกคนปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ให้การในรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ เหลือบอสพอล ยังสอบสวนไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากผู้ต้องหาและทนายความประสงค์ให้การในรายละเอียดที่จะต่อสู้คดี โดยมีเวลาควบคุมตัวถึงวันพรุ่งนี้ (18 ต.ค.) ก่อนนำตัวไปขอฝากขัง และตำรวจคัดค้านการขอประกันตัว ในส่วนของบอสสวย ก็มีความกังวลบ้างเรื่องของครอบครัว แต่ไม่กังวลเรื่องคดี และเจ้าตัวยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้หลักทรัพย์ใดประกันตัว
ส่วนกรณี การอายัดทรัพย์ของ The icongroup นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวว่า ขณะนี้ยึดอายัดมาได้แล้วทั้งหมดกว่า 125 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้จะรายงานไปยังสถาบันการเงิน เพื่อให้ตรวจสอบทางธุรกรรมเชิงลึกของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ว่าเชื่อมโยงไปถึงใครอีกหรือไม่ หากพบข้อมูลเชิงลึก ก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ ปปง.ทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานทั้ง ตำรวจ ปคบ. และ ดีเอสไอ โดยของกลางที่ไปยึดอายัดมาได้ ทั้งรถยนต์หรู และทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงที่ดีเอสไอไปอายัดที่ดินมา หลังจากนี้ ปปง.ก็จะตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์ของกลางในคดีอาญาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็จะมีกฎหมายฟอกเงินของ ปปง.ที่ว่าเป็น ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทำผิดมารองรับ ทุกอย่างจะต้องไปตรวจสอบ
แต่การตรวจสอบจะเปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์เข้ามาชี้แจง ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ส่งหนังสือให้ชี้แจง(คาดว่าจะส่งวันนี้) แต่ถ้าเลยกำหนด ทรัพย์ก็จะตกเป็นของแผ่นดินก่อนเพื่อรอการคุ้มครองสิทธิ์ให้ผู้เสียหาย ถ้าทรัพย์ที่ยึดมานั้นเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวกับการทำผิด จนท.จะทำเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อเสนอต่อศาลแพ่ง ให้มีคำสั่งให้ทรัพย์ทั้งหมดคุ้มครองผู้เสียหาย ซึ่งจะมีประกาศให้ผู้เสียหายมายื่นคำร้อง เพื่อตรวจสอบความเป็นผู้เสียหาย
นายเทพสุ กล่าวว่า ทุกกระบวนการ ปปง.จะเร่งให้เร็วที่สุด เพราะเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน การยื่นคำร้องสามารถมายื่นแบบคำร้องได้ที่ ปปง. ได้แล้ว
#ดิไอคอน
#ฝากขัง