สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้พิพากษาโทมัส ค็อกซ์ จากศาลของเขตฟุลตัน เคาน์ตี รัฐจอร์เจีย มีคำสั่งเมื่อเย็นวานนี้(16 ต.ค.)ให้เพิกถอนกฎระเบียบเลือกตั้งใหม่ 7 ข้อ หลังคณะกรรมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่หนุนหลังอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ประกาศใช้ในเดือนส.ค.67 เช่น กฎระเบียบการให้นับคะแนนด้วยมือที่หน่วยเลือกตั้ง แทนการนับคะแนนด้วยระบบเดิมคือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะทำให้การนับคะแนนดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
อีก 2 ข้อคือ การให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการเลือกตั้งท้องถิ่น มีอำนาจทำการสอบสวนผลการลงคะแนน ก่อนประกาศรับรองผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นมีอำนาจตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ระหว่างจัดการเลือกตั้ง ก่อนประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ซึ่งศาลพิเคราะห์หลักฐานจากผู้ร้องคืออัยการและผู้ถูกร้องคือ คณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นแล้วเห็นว่า อาจจะทำให้มีการแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งโดยไม่จำเป็น พร้อมชี้ขาดว่า เป็นกฎระเบียบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย
ด้านกลุ่มนักวิจารณ์โต้แย้งว่ากฎระเบียบใหม่นี้อาจจะทำให้การนับคะแนนหลังการเลือกตั้ง เกิดปัญหาล่าช้า และคำชี้ขาดเช่นนี้ สร้างความพอใจให้กับพรรคเดโมแครต ซึ่งหวั่นเกรงว่าระเบียบใหม่ดังกล่าว เสี่ยงจุดชนวนให้เกิดเหตุวุ่นวายหลังการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย หนึ่งในรัฐแบทเทิลกราวด์ของสหรัฐฯ ซึ่งผู้สมัครจากทั้งสองพรรคคือ นายทรัมป์และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนสูสี
ก่อนหน้านี้ รัฐจอร์เจียเริ่มเปิดการเลือกตั้งล่วงหน้าวันแรกเมื่อวันอังคาร(15 ต.ค.67)จนถึงวันที่ 1 พ.ย.67นี้ ก่อนวันเลือกตั้งจริง 5 พ.ย.67นี้ ซึ่งมีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ากว่า 459,000 คนในวันแรกของการเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า 36,000 คนในการเลือกตั้งในปี 2563 ทั้งนี้ มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 5 ล้านคนในรัฐจอร์เจียในปีนั้น ซึ่งนายโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตชนะนายทรัมป์ในการเลือกตั้งในรัฐนี้เพียง 12,000 คะแนน
ส่วนผลโพลทั่วประเทศจาก CNN ระหว่างวันที่ 1-14 ต.ค.67ซึ่งเผยแพร่เมื่อค่ำวานนี้ ปรากฏว่าผู้สมัครทั้งสองคนยังคงมีคะแนนที่สูสี นางแฮร์ริส ได้คะแนนนิยมร้อยละ 50 ขณะที่ นายทรัมป์ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 49
#การเลือกตั้งสหรัฐ