เมื่อวันจันทร์(14 ต.ค.67) หลังจากที่อิสราเอล เปิดด่านเอเรซ (Erez) ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ให้รถบรรทุก 30 คันจากโครงการอาหารโลก(WFP)ของสหประชาชาติขนสิ่งบรรเทาทุกข์ข้ามชายแดนเข้าไปยังเขตฉนวนกาซา
ล่าสุด สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯได้ส่งจดหมายขอให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล มีเวลา 30 วันในการดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อให้องค์กรการกุศลระหว่างประเทศนำส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังเขตฉนวนกาซาในปริมาณมากขึ้น เช่น เปิดด่านชายแดนเพิ่มเติม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือของเขตฉนวนกาซา พร้อมขู่ว่า ถ้าอิสราเอลไม่ทำตามข้อเสนอนี้ สหรัฐฯอาจจะพิจารณาตัดความช่วยเหลือด้านอาวุธสำหรับอิสราเอลในอนาคต นับเป็นการแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่ออิสราเอลมากที่สุดของสหรัฐฯ ตั้งแต่อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสสู้รบกันกว่าหนึ่งปีแล้ว
เจ้าหน้าที่อิสราเอล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูอยู่ระหว่างพิจารณาเนื้อหาในจดหมาย และให้ความสำคัญกับคำเตือนจากสหรัฐฯอย่างยิ่งในฐานะพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล และทางการอิสราเอลตั้งใจจะดำเนินการต่างๆเพื่อลดข้อวิตกกังวลของสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ กองกำลังป้องกันอิสราเอล(IDF)กลับเข้ามาบุกทางภาคพื้นดินรอบใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือของเขตฉนวนกาซาเมื่อเร็วๆนี้ มีชาวบ้านเสียชีวิตหลายราย ขณะที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ เช่น WFP ไม่อาจส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ภาคเหนือของเขตฉนวนกาซามากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ขณะที่สิ่งของบรรเทาทุกข์ในคลังเริ่มร่อยหรอทุกขณะสำหรับชาวบ้าน 400,000 คนในพื้นที่ภาคเหนือของเขตฉนวนกาซา ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในเขตฉนวนกาซา เนื่องจาก IDF ไม่อนุญาต หรือจำกัดการเดินทางของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จากองค์กรการกุศลระหว่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90 ของพื้นที่ หวั่นเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยงจากเหตุสู้รบระหว่างทหารอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
#สหรัฐ
#บรรเทาทุกข์
#สงครามกาซา