ปมดิไอคอนกรุ๊ป รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตั้งกก.สอบให้เสร็จ 30 วัน สคบ.เรียกบอสพอล-ดารา ชี้แจง

16 ตุลาคม 2567, 07:22น.


          การดำเนินคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นอกจากจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจะเพิ่มขึ้นแล้ว ยังอาจจะเชื่อมโยงไปถึงหน่วยงานและบุคคลภายนอก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เร่งรัดการสืบสวนข้อเท็จจริง และให้กระทรวงการคลัง ดูข้อกฎหมาย และการบังคับใช้ 


          น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันนี้(16 ต.ค.67) จะเสนอให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) แต่งตั้งคนนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเรียกข้อมูล และเรียกบุคคลภายนอกมาให้ข้อมูล เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมีการรับเรียกส่วย หรือคลิปเสียงระบุไปถึงใคร หรือมีใครเกี่ยวข้องบ้าง โดยจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน ซึ่งคณะกรรมการจะต้องให้ข้อเสนอแนะและให้ข้อแนะนำเชิงนโยบายด้วย


          จากประเด็นคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตำรวจได้ส่งคลิปเสียงให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ว่าเสียงในคลิปเป็นเสียงคน หรือ AI เลียนเสียง รวมถึงเป็นเสียงตัดต่อหรือไม่ ขณะเดียวกันจะต้องให้ฝ่ายสืบสวนรวบรวมข้อมูล เพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง เนื่องจากอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย เพราะมีการพูดคุยเพื่อเรียกรับเงิน ซึ่งหากสามารถทราบตัวเจ้าของคลิปเสียงได้ ก็อาจจะเชิญมาให้ปากคำ แต่ขณะนี้ขอไม่ยืนยันว่าใครเป็นเจ้าของคลิปเสียง รวมทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่า คลิปเสียงนี้จะใช้เป็นพยานหลักฐานได้หรือไม่ เพราะจะต้องรอผลการตรวจสอบก่อน


         กรณีที่มีการให้ข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์จากบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปโดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับทางธุรกิจ จะมีการส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ดำเนินการตรวจสอบ แต่หากผู้เสียหายคนไหนมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับผลประโยชน์ ก็สามารถนำมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปปป. ได้


        ด้าน พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ชี้แจงกรณีเสียงในคลิป และ ภาพที่ถ่ายกับนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ยืนยันว่า ถูกนำชื่อไปอ้างในคลิปเสียงสนทนาเรียกรับเงินแสน ปฎิเสธไม่ได้เป็นเทวดาในสคบ. พร้อมเดินหน้าแจ้งความเอาผิด ทำให้เกิดความเสียหาย


          นอกจากนี้ ในวันนี้ สคบ. เรียกนายวรัตน์พล หรือบอสพอล ผู้บริหารสูงสุดของ ดิ ไอคอน กรุ๊ป และดาราที่ร่วมเป็นผู้บริหาร มาสอบสวนข้อเท็จจริงและให้ข้อมูล ซึ่งผลการสอบจะส่งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อประกอบการพิจารณาข้อเท็จจริง


          สตช. แจ้งว่า มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กับสตช.เกือบ 1,000 คนแล้ว มียอดความเสียหาย 380 กว่าล้านบาท อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานวัตถุ พยานเอกสาร ให้รัดกุมที่สุดในการตั้งข้อกล่าวหา 


         ขณะเดียวกันคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด นายวรัตน์พล นายณิชพน ทองมี นางสาวฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และนายกันต์ กันตถาวร ประมาณ 125,548,076.99 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน เตือนหากใครช่วยเหลือ รับโอน ปกปิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


#ดิไอคอนกรุ๊ป


แฟ้มภาพ


Cr.รัฐบาลไทย


 
ข่าวทั้งหมด

X