'ทรัมป์-แฮร์ริส' ลงพื้นที่ในรัฐเพนซิลเวเนีย สมรภูมิสำคัญที่ชี้ขาดผลเลือกตั้ง 2024

          อีก 22 วันจะถึงวันเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย.67 บีบีซี รายงานว่า เมื่อคืนวันจันทร์(14 ต.ค.67) อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ต่างลงพื้นที่หาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย สมรภูมิสำคัญทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯที่อาจจะชี้ขาดผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 นายทรัมป์ได้จัดให้มีการปราศรัยแบบทาวน์ฮอลล์ที่เมืองโอคส์ ตอบคำถามสดจากผู้เข้าฟังการปราศรัยโดยตรง โดยนางคริสตี โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโกตา เป็นผู้ดำเนินรายการ

          หลังกล่าวเปิดรายการด้วยการเชิญนายทรัมป์ขึ้นมาบนเวที นางโนเอม เดินเข้าไปถามผู้ฟังการปราศรัยว่า ใครอยากจะถามนายทรัมป์ว่า เขามีนโยบายส่งเสริมให้คนวัยทำงานสามารถหาซื้อบ้านในราคาไม่แพงได้อย่างไร นายทรัมป์ ตอบว่า ต้นทุนค่าก่อสร้างที่มีราคาแพง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในขั้นตอนการวางแผน และการยื่นเรื่องขออนุมัติก่อสร้างกับหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่ค่าก่อสร้างบ้านโดยตรง

          นายทรัมป์ กล่าวว่า ถ้าชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 เขาจะแก้ปัญหากฎระเบียบต่างๆ เช่น ระเบียบควบคุมพื้นที่ก่อสร้างอาคารในเขตเทศบาล ซึ่งจะทำให้ต้นทุนก่อสร้างบ้านมีราคาถูกลง การมีบ้านของตนเองเป็นส่วนหนึ่งของความใฝ่ฝันของชาวอเมริกัน ซึ่งรัฐบาลของเขาจะส่งเสริมให้ความฝันในการมีบ้านสำหรับคนวัยหนุ่มสาวชาวอเมริกัน ตลอดถึงคนสูงอายุ กลายเป็นจริง

         ผลสำรวจของโพลชี้ว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เชื่อมั่น นายทรัมป์ มากกว่านางแฮร์ริสในเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ นางแฮร์ริสเคยให้คำมั่นเรื่องการปรับลดราคาบ้าน โดยการช่วยเหลือเรื่องเงินดาวน์ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือ 865,800 บาท ) สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังแรก พร้อมทั้งเสนอมาตรการจูงใจด้านภาษีสำหรับบริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

         หลังตอบคำถามเรื่องสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานในปี 2564 และคำถามเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมที่ชนผิวสีอเมริกันประสบอยู่ในขณะนี้ นายทรัมป์ พูดเรื่องปัญหาคนเข้าเมืองว่า ผู้อพยพที่ลักลอบผ่านแดนเข้ามาที่สหรัฐฯสร้างผลกระทบเชิงลบอย่างร้ายแรงต่อครอบครัวอเมริกันผิวสีและอเมริกันเชื้อสายสเปนและต่อสังคมอเมริกันทั้งหมดในภาพรวม พร้อมประกาศจะยกระดับมาตรการควบคุมชายแดนภาคใต้ของสหรัฐฯ แต่คนต่างชาติยังสามารถจะเดินทางเข้าสหรัฐฯด้วยการยื่นขอวีซ่าเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย

          ส่วนนางแฮร์ริสลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงที่เมืองอีรี(Erie) เมื่อคืนนี้(14 ต.ค.67) พูดเรื่องแผนปรับลดราคาทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าประกันสุขภาพไปจนถึงค่าราคาสินค้า เรื่องการทำแท้ง,ศาลฎีกาและวิจารณ์นายทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นปัญหาสำคัญที่ชาวอเมริกันให้ความสนใจ

        นางแฮร์ริส ย้ำว่า ปีนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งปี 2016 ทั้งไม่ใช่การเลือกตั้งปี 2020 แต่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 สำคัญกว่าทุกครั้ง หมายถึงคำพิพากษาของศาลฎีกาสหรัฐฯเมื่อเร็วๆนี้ที่รับรองเอกสิทธิ์คุ้มกันทางกฎหมายในลักษณะครอบคลุมมากสำหรับประธานาธิบดีในกรณีปฏิบัติหน้าที่ทางการ ซึ่งเธอวิจารณ์ว่า คำพิพากษาเช่นนี้จะส่งเสริมให้นายทรัมป์เป็นผู้นำเผด็จการตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาบริหารประเทศ ถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง

         บางช่วงบางตอน นางแฮร์ริส เปิดคลิปการปราศรัยในโอกาสต่างๆของนายทรัมป์ประกอบการปราศรัย และวิจารณ์นายทรัมป์ว่า เรียกทุกคนที่ไม่ได้สนับสนุนเขาหรือไม่ยอมทำตามใจของเขาว่า เป็นศัตรูของชาติ ย้ำว่า การยอมให้นายทรัมป์กลับมาบริหารประเทศสมัยที่ 2 จะเกิดผลเสียหายร้ายแรงสำหรับประเทศชาติ เนื่องจาก นายทรัมป์มีนโยบายที่ไม่คงเส้นคงวา และไม่ยอมให้องค์กรอิสระอื่นๆเข้ามาตรวจสอบการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร

#การเลือกตั้งสหรัฐ