ผบ.ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานทุกมิติ ประสาน ปปง.ตรวจสอบทรัพย์สิน คดี ‘The iCon Group’

          คดี The iCon Group (ดิไอคอนกรุ๊ป) บริษัทธุรกิจออนไลน์และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พอใจภาพรวมของการทำงาน กำชับทุกหน่วยทำงานร่วมกัน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.),กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ),สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) โดยเฉพาะมิติของการตรวจสอบและยึดอายัดทรัพย์สิน ต้องประสานและทำงานกับ ปปง.อย่างใกล้ชิด ให้ตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความจากผู้เสียหาย ผู้เสียหาย สามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือ เดินทางเข้ามาแจ้งด้วยตัวเองได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ.ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

         กระแสข่าวที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง สั่งการให้ตรวจสอบทุกมิติ หากพบว่าเป็นความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมถึงการดำเนินการทั้งทางวินัยควบคู่กันไปด้วย 

         พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดูแลการสืบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยรายละเอียดคดี

-ผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 740 ราย คาดว่า น่าจะถึง 800 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 266 ล้านบาท 

-มูลค่าความเสียหาย 266 ล้านบาท  DSI ได้ติดต่อขอข้อมูลทางคดีมาแล้ว ซึ่งหากพิจารณาตามระเบียบของ DSI คดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ก็อาจเข้าข่ายที่ทาง DSI รับไปดำเนินการได้

-ยังไม่พบผู้เสียหายจากต่างประเทศเข้ามาแจ้งความ ผู้เสียหายสามารถส่งเรื่องมาให้ตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยแจ้งความร้องทุกข์แทนได้

-ศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม ได้จัดพนักงานสอบสวนอำนวยความสะดวกไว้ 70 รายต่อวัน 

-คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 6 คน ได้แก่ นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล ซึ่งเป็นกรรมการบริษัท,กันต์ กันตถาวร , แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี ,มิน พีชญา วัฒนามนตรี,นายฐานนท์  หรือ หมอเอก และ นายกลด  หรือ ปีเตอร์

เนื่องจาก ผู้เสียหายได้แจ้งความเอาผิด พร้อมระบุชื่อของทั้ง 6 ราย จึงถือว่าเป็นผู้ต้องหา หรือผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง 2 คำ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานในด้านอื่น ๆ เช่น พยานวัตถุ พยานเอกสาร และพยานบุคคลให้ครบถ้วนรอบด้าน ถึงจะพิจารณาในการแจ้งข้อกล่าวหา หรือออกหมายจับทั้ง 6 รายได้

-คำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครให้การรับสารภาพ และระบุว่าจะเข้ามาชี้แจงในภายหลัง พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนพรีเซ็นเตอร์จะพิจารณาเชิญมาให้ปากคำในภายหลัง

-กรณีที่ผู้ต้องหามาแสดงตัวต่อตำรวจ ไม่ได้หมายความว่า ผู้ต้องหาจะไม่ถูกออกหมายจับในภายหลัง หากมีพยานหลักฐานที่ตำรวจสืบสวนได้เอง ก็สามารถขออำนาจศาลออกหมายจับได้ 

-ส่วนแม่ข่ายอีก 8 คน ได้แก่ ปัน, สวย,จอย,โซดา,โอม,วิน,หญิง,ป๊อบ และภรรยาของกันต์ กันตถาวร ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดแจ้งความเอาผิด ยังไม่เป็นผู้ต้องหา แต่หากมีพยานหลักฐานไปถึง ก็อาจถูกพิจารณาออกหมายเรียก หรือหมายจับได้