*รอบโลก:ยุติเจรจรหนี้กรีซ/สื่อปากีสถานตีข่าวนศ.ไทยถูกจับ/ระวังถูกแฮกiCloud*

12 มิถุนายน 2558, 06:46น.


 *ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++เจ้าหน้าที่ปากีสถานออกแถลงอย่างเป็นทางการ ว่าได้รวบตัวพคนไทย 5 คนฐานพยายามลอบนำปืนพกและกระสุนขึ้นเครื่องบิน ขณะที่สื่อท้องถิ่นบางสำนักถึงขั้นรายงานว่าคนเหล่านี้มีเป้าหมายจี้เครื่องบิน ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอิกบาล ในเมืองลาฮอร์ ทางตะวันออกของปากีสถานเมื่อวันจันทร์   เจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความปลอดภัยสนามบิน(เอเอสเอฟ) บอกกับเอเอฟพี ต่อมา ได้ส่งมอบตัวพวกเขาแก่เจ้าหน้าที่สืบสวนที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะที่หน่วยสืบสวนกลางก็ยืนยันการจับกุมเช่นกัน



+++ เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในอิสลามบัดยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว แต่สื่อมวลชนท้องถิ่นอย่างเดลีปากีสถาน รายงานว่าเหล่าผู้ถูกกล่าวหาน่าจะกำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งในเขตสวัต(Swat)และเมื่อไม่นานมานี้ ไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ไรวินด์ของลาฮอร์   เดลีปากีสถานระบุต่อว่าพลเมืองไทยเหล่านี้แยกชิ้นส่วนปืนเก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระ ขณะที่แหล่งข่าวเล่าว่าพวกเขาเล็ดลอดการตรวจค้นจากเคาน์เตอร์แรกของสนามบิน แต่ถูกจับได้ตรงเคาน์เตอร์ที่ 2 หลังเจ้าหน้าที่สงสัยท่าทีมีพิรุธ และมีข่าวว่าพวกเขาถูกกล่าวหาวางแผนจี้เครื่องบิน อย่างไรก็ตามยังไม่มีคำยืนยันเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างนี้      นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย บอกกับเอเอฟพีว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในกรุงอิสลามาบัด กำลังอยู่ระหว่างประสานงานกับทางการปากีสถาน เพื่อขอเข้าเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกควบคุมตัวในลาฮอร์



++++การเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้ระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้ประสบทางตันอีกครั้งหนึ่ง หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่า ตัวแทนของ IMF ได้ยุติการเจรจาในกรุงบรัสเซลส์แล้ว และได้เดินทางกลับประเทศโดยทันที เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากกับทางกรีซ ด้านตัวแทนของกรีซก็ได้ยุติการเจรจา และเดินทางกลับประเทศเช่นกัน



+++นายฌอง คล็อต จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการแห่งยุโรป ได้ขอให้นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสของกรีซ ยอมรับข้อตกลงเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซ หลังการเจรจากับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีและประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศสในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมเมื่อวานนี้ ยุติลงโดยไม่คืบหน้าพอที่จะทำให้มีการอนุมัติเงินกู้งวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโรในโครงการช่วยกู้วิกฤติกรีซที่จะครบกำหนดช่วงปลายเดือนนี้ หลังการเจรจานานกว่า 11 ชั่วโมงในบรัสเซลส์



+++นายโดนัลด์ ทุสค์ ประธานสหภาพยุโรป เตือนกรีซ อย่างตรงๆว่าให้หยุดเดิมพันอนาคตของประเทศที่กำลังเผชิญภาวะเงินสดขาดมือเสียที และตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะจากการผิดนัดชำระหนี้ ที่อาจนำไปสู่การต้องออกจากยูโรโซน "นี่



+++ส่วนที่กรุงเอเธนส์ของกรีซ กลุ่มสหภาพการค้าได้นัดประท้วงใหญ่ในวันนี้เพื่อคัดค้านแนวโน้มที่เจ้าหนี้นานาชาติจะกดดันรัฐบาลกรีซให้ใช้มาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายของภาครัฐครั้งใหม่ แลกกับการช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติม ผู้ประท้วงได้บุกยึดกระทรวงการคลังที่บริเวณจัตุรัสซินแทกมา ปลดธงของสหภาพยุโรปลง พร้อมหย่อนแผ่นป้ายขนาดใหญ่ลงจากอาคาร มีข้อความว่า ชาวกรีซได้รับความเดือดร้อนมากพอแล้ว ชาวกรีซได้ชำระหนี้ตลอดมาและขอให้รัฐบาลยุติการใช้มาตรการประหยัดเพิ่มเติม



++++เวิดล์แบงก์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในรายงานล่าสุด เตือนประเทศตลาดเกิดใหม่เตรียมตั้งรับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) ที่จัดทำขึ้นปีละสองครั้งว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวร้อยละ  2.8  ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมร้อยละ  3 ซึ่งให้ไว้ในรายงานฉบับก่อนเมื่อเดือนมกราคม เพราะว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันที่ดิ่งลงประมาณ ร้อยละ40 นับจากปีที่แล้ว กำลังส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกมากกว่าที่คาด นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยลบจากการหดตัวของเศรษฐกิจแดนเยอรมนีในช่วงไตรมาสแรก การฟื้นตัวอย่างล่าช้าในยุโรปและญี่ปุ่น ขณะที่การเติบโตของจีนก็ชะลอลง จุดเด่นที่น่าสนใจอื่นๆ รายงานฉบับนี้ของเวิลด์แบงก์ ได้แก่การระบุว่า อินเดียจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดเป็นครั้งแรก โดยขยายตัวถึงร้อยละ 7.5 ในปีนี้ จากตัวเลขคาดการณ์เดิม ร้อยละ6.4 ธนาคารโลกยังลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงเหลือ ร้อยละ2.7 จากร้อยละ 3.2 สำหรับปีนี้



+++ราคาน้ำมันตลาดโลก ปรับลง หลังทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)คาดหมายว่าอุปสงค์ที่ดีดตัวขึ้นในระยะหลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุด ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบและทองคำขยับลง จากข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ   น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 66 เซนต์ ปิดที่ 60.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 65.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  รายงานตลาดน้ำมันประจำเดือน อีไอเอปรับเพิ่มอุปสงค์โลกปี 2015 จากการประมาณการณ์คราวก่อน 300,000 บาร์เรล เป็น 91 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังพบอุปสงค์เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกในรายงานยังพบเห็นสัญญาณยืดเยื้อของภาวะอุปทานล้นตลาด จากกำลังผลิตอันสูงลิ่วของสหรัฐฯและเหล่าสมาชิกหลักๆของโอเปก

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวก หลังข้อมูลค้าปลีกอันแข็งแกร่งของอเมริกา บ่งชี้ว่าผู้บริโภคกำลังมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ตามหลังภาวะซบเซาในไตรมาสแรก ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 38.97 จุด  ปิดที่ 18,039.37 จุด ข้อมูลของกระทรงพาณิชย์สหรัฐฯพบว่ายอดค้าปลีกในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ดีกว่าที่เหล่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้ตัวเลขค้าปลีกอันแข็งแกร่งผลักให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่ปัจจัยนี้เองที่ฉุดให้ทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี ปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,180.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการว่า มีคนไข้ที่ติดไวรัสเมอร์สเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน นับเป็นคนไข้เมอร์สรายที่ 10 ที่เสียชีวิต เป็นชายวัย 75 ปีขณะรักษามะเร็งระยะปอดระยะสุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาคอนยังในเมืองแตจอน ทางภาคกลางของประเทศ และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 14 คนในวันนี้ ส่งผลให้มีคนไข้เมอร์สในเกาหลีใต้รวม 122 คน ในจำนวนคนไข้รายใหม่ 14 คน 8 รายติดเชื้อระหว่างการเยือนศูนย์การแพทย์ซัมซุงในกรุงโซล หนึ่งในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้  นอกจากนี้ คนไข้ใหม่ 8 คน รวมถึงสตรีวัย 39 ปีคนหนึ่งซึ่งตั้งครรภ์ระยะใกล้คลอด ซึ่งได้ไปเยี่ยมมารดาที่ป่วยและรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ซัมซุง แต่ขณะนี้ มีอาการทรงตัว แพทย์กล่าวว่าจะทำการผ่าคลอด ถ้าหากเธออาการแย่ลง สำหรับมาตรการป้องกัน รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กักตัวคนไข้เมอร์สและคนที่เคยสัมผัสโดยตรงกับคนไข้ ถึงวันนี้ มีคนถูกกักตัวรอดูอาการ 3,805 คน จาก 3,439 คนเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ 7 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดไวรัสเมอร์สได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล หลังหายป่วย ร่างกายแข็งแรงตามปกติแล้ว สำหรับไวรัสเมอร์สเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่ค่อนข้างใหม่ในวงการแพทย์ มีรายงานผู้ป่วยรายแรกในซาอุดิอาระเบียเมื่อปี 2555 มีผู้ติดไวรัสเมอร์สราว 1,100 คนจาก 20 ประเทศ ส่วนใหญ่ในตะวันออกกลาง



++++ศาลในเมืองเทียนจิน ทางภาคเหนือของประเทศสั่งจำคุกตลอดชีวิตนาย โจว หย่งคัง อดีตหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงวัย 72 ปี หลังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบน ใช้อำนาจโดยมิชอบและจงใจเปิดเผยความรับของชาติ ก่อนหน้านั้นจนถึงช่วงเกษียณอายุเมื่อปี 2555 นายโจว เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของจีนเนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีความมั่นคงสาธารณะและอดีตคณะกรรมการในกรมการเมือง องค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของจีน  ต่อมาเขาถูกสอบสวนหลังประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นครองอำนาจในอีก 1 ปีต่อมา ตามแผนปราบปรามการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ นายโจวถูกปลดออกจากทุกตำแหน่ง รวมถึงการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและถูกอายัดทรัพย์สิน ระหว่างการไต่สวนลับในวันนี้ นายโจว ให้การรับสารภาพต่อศาล ระบุว่าเขาจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาล



+++นักวิจัยประกาศพบข้อบกพร่องร้ายแรงในระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ของแอปเปิลที่อาจทำให้นักแฮกแอบขโมยรหัสผ่านบริการพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ “ไอคลาวด์ (iCloud)” อย่างง่ายดาย ระบุหน้าแบบฟอร์มปลอมสามารถทำงานได้ราบรื่นบนช่องโหว่นี้ ทำให้ผู้ใช้อุปกรณ์แอปเปิลอาจหลงกลกรอกข้อมูลรหัสผ่าน iCloud แล้วส่งให้แฮกเกอร์โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นเหยื่อ  และข้อบกพร่องนี้ยังไม่ถูกแก้ไขใน iOS 8.3 ที่แอปเปิลเพิ่งเปิดอัปเดท การสร้างแบบฟอร์มปลอมให้เหยื่อหลงกลกรอกข้อมูลนั้นเป็นที่รู้จักในชื่อฟิชชิง (Phishing)  คำแนะนำผู้ใช้ควรจะคลิกปุ่มยกเลิกหรือ cancel หากพบแบบฟอร์มขอรหัสผ่านที่ไม่แน่ใจ ก่อนจะกลับไปตรวจสอบที่อยู่ผู้ส่งอีเมลนั้นว่าเชื่อถือได้หรือไม่   รายงานระบุว่าแอปเปิลรับทราบข้อมูลช่องโหว่นี้ตั้งแต่เดือนมกราคม

ข่าวทั้งหมด

X