*สอบ5นศ.ไทยถูกจับปากีสถาน/บุญทรงยื่นประกันขายข้าว/เมอร์สเกาหลีใต้ตายศพที่10 *

สรุปข่าว 18.00 น.

+++ ความคืบหน้า กรณีนักศึกษาไทย จำนวน 5 คน ถูกควบคุมตัวได้ที่สนามบิน ลาฮอร์  ขณะเตรียมตัวบินกลับประเทศไทย ขณะเตรียมขึ้นเครื่องเที่ยวบินที่ ทีจี 346 เส้นทางลาฮอร์-กรุงเทพฯ กำหนดเวลาเดินทาง 23.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นเนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามบินตรวจพบอุปกรณ์ต้องห้ามสำหรับการนำขึ้นเครื่องบินพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  ขณะนี้นักศึกษาทั้งหมดปลอดภัยแล้ว และอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ปากีสถาน กระทรวงการต่างประเทศของไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและได้ส่งเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปดูแลนักศึกษาให้เกิดความสบายใจ คลายเครียดและเข้าใจสิทธิ์ของตนตามกฎหมาย โดยยึดหลักการเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศที่กำหนดไว้ ตรวจสอบแล้วไม่พบเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้

+++ด้านนางอำพร สูทอก แม่ของนายฟารุด สูทอก1 ในผู้ถูกจับกล่าวว่า เป็นห่วงบุตรชายมาก ขอให้ทางการไทยช่วยประสานงานและให้กลับมาประเทศ เพราะเชื่อว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบกับลูกชายนิสัยไม่เกเร ส่วนการจะไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่นั้นไม่มีแน่นอน ส่วนการที่ส่งลูกไปเรียนที่ปากีสถานนั้น เพราะมีเพื่อนบ้านหลายคนก็เคยไปเรียนและกลับมาประกอบอาชีพที่บ้าน และเป็นผู้นำทางศาสนา ซึ่งลูกชายก็มีความสนใจทางด้านศาสนามาก นอกจากนั้น การไปเรียนดังกล่าวก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายสูง มีเพียงแค่ค่าอาหาร ค่าที่พักเท่านั้นตกเดือนละ 4 พันบาท ส่วนค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ฟรีหมด   สำหรับผู้ถูกจับกุมทั้งหมด ประกอบด้วย นายต่วนอับดุลรอซะ ลอจิ ภูมิลำเนา จ.ปัตตานี นายศักดิ์ กริยา สองหลง ภูมิลำเนา จ.ตรัง นายเตชิต บุญมาเลิศ ภูมิลำเนา จ.ฉะเชิงเทรา นายอภิสิทธิ์ หมัดอัด ภูมิลำเนา จ.สงขลา และ นายฟารุด สูทอก ภูมิลำเนา จ.กระบี่

+++หลังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นัดประชุมเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ 3 วาระรวด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะต้องส่งผู้แทนเข้าไปชี้แจง โดยจะไปชี้แจงในนามครม. ส่วนจะการรวบรัดเกินไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก ส่วนในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติ เปิดทางให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 เข้ามามีตำแหน่งทางการเมืองได้ นายวิษณุ กล่าวว่ามีส่วน บางคนก็ไม่ได้ยินดียินร้าย จะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้ ซึ่งการเปิดทางครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีอคติต่อต้าน ไม่เหมือนช่วง 7 - 8 เดือนที่ผ่าน ที่เข้ามา   จากนั้นยังจะเชิญตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตัวแทนสำนักงบประมาณ กระทรวงมหาดไทย มาหารือ หลังกกต.ระบุว่าสามารถจัดให้มีการออกเสียงลงประชามติได้ในวันที่ 10ม.ค.2559 โดยจะถามกกต.ถึงเหตุผลในการกำหนดวัน การใช้งบประมาณและบุคลากร ปัญหาและอุปสรรคในการจัดลงประชามติ จำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงลงประชามติ และต้องการรู้เรื่องการจัดพิมพ์เอกสารแจกจ่ายประชาชนให้ทำความเข้าใจในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ 19 ล้านฉบับ จะใช้โรงพิมพ์ที่ใดและใช้กระดาษอะไรในการจัดพิมพ์และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง

+++การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่าง  พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ยอมรับว่า มีความหนักใจนักศึกษาบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจและมีความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ จึงต้องขอร้องไปยังผู้ปกครองและอาจารย์ช่วยดูแลและสร้างความเข้าใจ เพราะกลุ่มนักศึกษาอาจจะมีบางส่วนที่ขาดข้อมูลและวุฒิภาวะ อาจจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายตามขั้นตอน หากมีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่ยืนยันว่ากองทัพพร้อมสนับสนุนกิจกรรมของนักศึกษาในเชิงสร้างสรรค์

+++ภารกิจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันนี้ ได้เข้าร่วมการประชุม Leader’s Retreat กับนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เกี่ยวกับผลการการประชุมทั้งสองฝ่ายยินดีที่ได้มีการลงนามความตกลง 4 ฉบับ เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ และความร่วมมือด้าน Digital Content การยกเว้นภาษีซ้อน ภาคอุตสาหกรรม โดยนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นจะทำความตกลงทั้ง 4 ฉบับ บรรลุให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์การเมืองของไทยในขณะนี้ว่า กลับสู่เสถียรภาพแล้ว โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนไปข้างหน้าการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และกำลังเดินหน้าตามโรดแมป คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้ในปี 2559 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลสิงคโปร์สำหรับความเข้าใจ

+++คดีทุจริตและฮั้วประมูลโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาลฎีกา และเจ้าของสำนวน ว่า หลังจากที่มีการยื่นฟ้องคดีแล้ว จนถึงขณะนี้ มีจำเลย 3-4 ราย ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราวแล้ว หนึ่งในนั้นคือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เพิ่งได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในวันนี้   โดยใช้หลักทรัพย์เป็นสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ซึ่งศาลได้พิจารณาแล้วตีราคาประกัน นายบุญทรง 20 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

+++สำหรับ คดีนี้ ศาลฎีกา ฯ กำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ซึ่งจำเลยทั้งหมดจะต้องเดินทางมาศาลในวันดังกล่าวด้วย โทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งการยื่นฟ้อง อัยการสูงสุดขอให้สั่งปรับจำเลยทั้งหมด เป็นเงิน 35,274,611,007 บาท ซึ่งค่าปรับดังกล่าวคิดคำนวณจากมูลค่าครึ่งหนึ่งตามสัญญาระบายข้าว 5 หมื่นตัน ที่พบว่ามีการกระทำผิดสัญญา 4 ใน 8 ฉบับ

+++ ความคืบหน้า คดีรุกป่าของสนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดย์เวย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า คดีนี้มีการสืบสวนสอบสวนจนใกล้แล้วเสร็จเตรียมสรุปสำนวนคดีและตนได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ประชุมมีมติให้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ที่มีรายชื่อครอบครอง น.ส.3 ก.จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 25 ไร่ อยู่ในพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า เนื่องจากเชื่อว่ามีผลประโยชน์ในสนามแข่งรถดังกล่าว แต่ยังไม่ทันได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายไพวงษ์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีคำสั่งให้โอนคดีไปให้ทาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดูแล ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องของทาง บก.ปทส. จะดำเนินการแจ้งหาเอาผิดกับ นายไพวงษ์ ต่อไป

++++น.พ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัด กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รักษาการปลัด สธ. เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญกรมควบคุมโรคเสนอในการที่จะประกาศให้โรคโคโรนาไวรัส 2012 หรือไวรัสเมอร์ส-โควี เป็นโรคติดต่ออันตรายและโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 โดยหากพบผู้ป่วยจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที ทั้งนี้ จะเร่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ภายใน 1-2 วันนี้  สำหรับมาตรการของ สธ.ยังเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มอำนาจทางกฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่ในการดำเนินการได้สะดวกขึ้น ให้สามารถกักตัวผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่ถือว่าละเมิดสิทธิ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบผู้ที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ แล้วเข้ารับการตรวจเชื้อ 11 ราย ผลออกมาเป็นลบ ยังไม่มีผู้ใดเป็นโรคเมอร์ส 

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ระดับ 1,514.81 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,489.01 ล้านบาทโดยได้แรงหนุนจากเรื่องของกรีซที่ทางเยอรมนีอาจยอมรับในบางข้อต่อแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ พุ่งขึ้น 336.61 จุด ปิดที่ 20,382.97 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 220.21 จุด ที่ 26,907.85 จุด

+++กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการว่า มีคนไข้ที่ติดไวรัสเมอร์สเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นชายวัย 75 ปีขณะรักษามะเร็งระยะปอดระยะสุดท้ายอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาคอนยังในเมืองแตจอน และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 14 คนในวันนี้ ส่งผลให้มีคนไข้เมอร์สในเกาหลีใต้รวม 122 คน สำหรับผู้เสียชีวิตรายล่าสุดนับเป็นคนไข้เมอร์สรายที่ 10 ของเกาหลีใต้นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์สรายแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ในจำนวนคนไข้รายใหม่ 14 คน 8 รายติดเชื้อระหว่างการเยือนศูนย์การแพทย์ซัมซุงในกรุงโซล หนึ่งในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้

+++นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ ของฝรั่งเศส กล่าวว่าเขาจะคืนเงินให้แก่รัฐ 2,500 ยูโรจากกรณีการใช้เครื่องบินของรัฐบาลพาลูก 2 คนไปชมการแข่งขันฟุตบอลรายการแช็มเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศในกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี เมื่อวันเสาร์หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนในฝรั่งเศส โดยเฉพาะสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสื่อสังคมออนไลน์ของฝรั่งเศส นายวาลส์ กล่าวว่าเขารับฟังกระแสการวิจารณ์ของสาธารณชน จึงตัดสินใจคืนค่าใช้จ่ายในส่วนการเดินทางของลูกของเขาให้แก่รัฐ สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้ นักวิจารณ์บางคนประเมินว่าอาจจะสูงถึง 20,000 ยูโร ในกรณีเช่าเครื่องบินและเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ด้านคนใกล้ชิดของนายวาลส์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่าย 2,500 ยูโรคำนวณจากค่าตั๋วบินไปกลับโดยเฉลี่ยของเครื่องบินโดยสารสำหรับการเดินทางจากเมืองปัวตีเยของฝรั่งเศสไปยังกรุงเบอร์ลิน

+++การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2015 ในวันนี้ ทีมชาติไทย ทำได้อีก 15 เหรียญทอง  โดยทำได้จากจำรัส ฤทธิเดชและ วัลลภา พันธุ์สูงเนิน คว้าเหรียญทอง วิ่งข้ามรั้ว ในประเภท ชาย 110 เมตร จำรัส ทำลายสถิติซีเกมส์ที่ตนทำไว้ ด้วยเวลาใหม่ 13.69 วินาที นอกจากนั้นทีมกรีฑาไทย ยังคว้า 1 เหรียญทองจาก วิ่ง 4X400เมตรชาย ส่วนทีมหญิงทำได้แค่เหรียญเงิน โดยเหรีญทองเป็นของเวียดนาม  สรุปเหรียญทองวันนี้ ไทยยังรั้งที่ 3 ได้ 55 ทอง 62 เงิน 48 ทองแดง ที่ 2 ยังเป็นเวียดนาม 57 ทอง 31 เงิน 50ทองแดง และที่ 1 เจ้าภาพสิงคโปร์ 64 ทอง 57 เงิน 66 ทองแดง

+++ นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกกท. กล่าวยอมรับด้วยว่า จำนวนเหรียญทองของไทย อาจจะไม่ถึง 100 เหรียญทอง แต่จากสถานการณ์ล่าสุด หากได้ 70 เหรียญทอง ก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ในปี พ.ศ.2562 แทน บรูไน เบื้องต้นจะนำเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาไทยที่สิงคโปร์ งบประมาณจัดจะอยู่ในกรอบวงเงินประมาณ 800 ล้านบาท จะมีรายได้จากส่วนต่างๆ ราว 200 ล้านบาท เห็นควรว่าให้จัดในเมืองใหญ่ต่างจังหวัด ซึ่งจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อประสานกับสหพันธ์มนตรีซีเกมส์โดยเร็วที่สุด

+++ส่วน ตวน ฮุง นักร้องชื่อดังชาวเวียดนาม ประกาศว่าหากฟุตบอลทีมชาติเวียดนามไม่สามารถชนะทีมชาติไทยได้ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2015 นั้น เขาจะยอมโกนหัว ปรากฎว่า ทีมชาติไทยชนะเวียดนาม 3-1   ตวน ฮุง ได้โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก ระบุข้อความเป็นภาษาเวียดนาม ข้อความประมาณว่าต้องทำตามสัญญา ลาก่อนทรงผมที่ทำมาหลายปี ผมต้องแสดงให้เห็นถึงความรักต่อฟุตบอล วันนี้ขอไปประเทศเยอรมนีก่อน พรุ่งนี้จะกลับมาพร้อมผมทรงใหม่