สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.67) เวลา 20.15 น.มีการแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำจำนวนมากที่ไหลบ่าลงมาในพื้นที่ ต.อุโมงค์ และ ต.หนองช้างคืน ทำให้มีปริมาณน้ำเกินกว่าลำเหมืองและคลองต่างๆจะรับมวลน้ำได้ อาจทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้าน และพื้นที่ทางการเกษตรใน ต.เหมืองง่า ซึ่งมวลน้ำได้เริ่มไหลเข้าพื้นที่ตำบลดังกล่าวแล้ว ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนขนของขึ้นที่สูง และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และ กลุ่มเปราะบางให้อยู่ในที่ปลอดภัย เฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
19.40 น.รายงานสถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านหนองช้างคืน ต.หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน มวลน้ำเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง นางสุกัลยา อุทธิยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ต.หนองช้างคืน พร้อมชุมชนตำบลหนองช้างคืน ดูแลรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ให้มานอนพักที่ รพ.สต.หนองช้างคืน 8 คน และผู้ที่มาพักอาศัย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ 50 คน เป็นศูนย์ผู้พักพิงน้ำท่วมในเขต ต.หนองช้างคืน
Hfocus รายงาน การดูแลสุขภาพและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ
-ระดับน้ำปิงใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ้นระยะวิกฤต คงเหลือน้ำท่วมขังใน อ.เมือง อ.สารภี อ.สันป่าตอง และ อ.หางดง เริ่มเตรียมการเข้าสู่ระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด รวมทั้งดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบภัยที่อาจมีภาวะเครียดสูง
-จ.ลำพูน ระดับน้ำที่ อ.ป่าซาง ลดลงแล้ว แต่ อ.เมือง ยังเพิ่มขึ้น ได้มีการเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ที่จะมาจาก อ.สารภี จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 0.6-0.8 เมตร มีพื้นที่เสี่ยง 3 โซน คือ
*โซนที่ 1 ต.อุโมงค์ และ ต.เหมืองง่า รับน้ำจากไทวัสดุ ถนนเรียบรางรถไฟ ลงสู่น้ำกวง
*โซนที่ 2 หมู่บ้านติดน้ำกวง ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอาจล้นเข้าท่วมบ้านเรือน
*โซนที่ 3 รับน้ำจากหนองแฝก ลงสู่น้ำปิง โดยให้เฝ้าระวังสถานพยาบาลและจัดทีมแพทย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้ป่วย รวมถึงกลุ่มเปราะบาง คาดว่าภายใน 3 วันจะคลี่คลาย
-จ.สุโขทัย สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย กำลังเข้าสู่ระยะฟื้นฟู โรงพยาบาลสุโขทัยมีน้ำขังเล็กน้อยหน้าโรงพยาบาล ผู้ป่วยรับบริการได้ตามปกติ จากการคาดการณ์ระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค.67 พบว่า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน ฝนจะเริ่มเบาลง เหลือเพียงการจัดการมวลน้ำ
-ภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักทำให้มีความเสี่ยงแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากที่ จ.พังงา (อ.ตะกั่วป่า อ.กะปง) จ.กระบี่ (อ.ปลายพระยา อ.เมือง) และ จ.ยะลา (อ.เบตง อ.ธารโต อ.กาบัง)
-ช่วงวันที่ 13-24 ต.ค.67 จะมีน้ำทะเลหนุนสูงประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร ใน จ.สมุทรปราการ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
#น้ำท่วม
#ลำพูน
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน,อบจ.ลำพูน,Hfocus