จากกรณีตำรวจ บก.ตม.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับเบาะแสจากพลเมืองดี ว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน เชื่อว่าจะอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และมีพฤติกรรมน่าสงสัย เก็บตัวและมักปกปิดใบหน้าสวมหมวกใส่หน้ากากตลอดเวลาเมื่อต้องออกมาจากที่พักอาศัย จึงลงพื้นที่ตรวจสอบในวันที่ 3 ต.ค.2567 โดยสังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านล่างของคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ย่าน พระราม 4 กรุงเทพฯ
ต่อมาในเวลาบ่าย พบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงตามข้อมูลของสายลับ ปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดและลงมารับอาหารที่บริเวณชั้นล่าง จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ขอตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง จึงพบว่าบุคคลต่างด้าวต้องสงสัยคนดังกล่าวเป็นชาวจีน ชื่อ น.ส.JING (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ช่วงปี 2565 โดยได้รับการตรวจลงตราประเภท TR-15 อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 15 วันเพื่อท่องเที่ยว ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดมาแล้วกว่า 650 วัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ” นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึงสาเหตุการอยู่ในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย น.ส. JING แสดงพิรุธและพยายามเปลี่ยนเรื่อง บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ โดยบอกว่าเป็นแอร์โฮสเตส สายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง และถูกเลิกจ้าง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะบุคคลต่างด้าวที่ทำหน้าที่ลูกเรือ จะได้รับการตรวจลงตราเป็นการเฉพาะไม่ใช่ได้รับการตรวจลงตราในลักษณะ VISA ON ARRIVAL เพื่อการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนทั่วไป
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบหมายจับของตำรวจสากลพบว่า น.ส.JING เป็นบุคคลที่มีหมายน้ำเงินของตำรวจสากล เป็นหมายที่แจ้งให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐในประเทศสมาชิกตำรวจสากล รวบรวมข้อมูลการเคลื่อนไหว ถิ่นพำนักบุคลิกลักษณะของบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อนำไปสู่การออกหมายแดงหรือประกาศจับต่อไป
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศจีน ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าประมาณปี 2559 - 2562 สำนักงานความมั่นคงสาธารณะมณฑลโจวผิง ประเทศจีน สืบสวนคดีฉ้อโกงซึ่งมี น.ส. JING เป็นผู้ต้องหาได้หลอกเหยื่อว่าสามารถช่วยเหลือให้เหยื่อทำงานเป็นแอร์โฮสเตส หรือสจ๊วต ให้กับสายการบินชื่อดังหลายแห่งได้ โดยมีผู้เสียหายจำนวน 6 คนหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินให้เป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 1.5 ล้านหยวน หรือมากกว่า 7.5 ล้านบาท
จากนั้น น.ส.JING นำเงินที่ได้มาส่วนหนึ่งทำศัลยกรรมใบหน้าใหม่ เพื่อให้ผู้เสียหายจำไม่ได้ และปกปิดใบหน้าตลอดเวลา ก่อนจะหลบหนีมาซ่อนตัวในประเทศไทย
#ชาวจีนหนีคดี
#ศัลยกรรมหน้า
Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ดาวแปดแฉก