ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ทางสถานี CBS News ซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (6 ต.ค.67) ตามเวลาท้องถิ่น นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอล และการที่นักวิจารณ์มีความเห็นว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลขัดขวางการทำงานของสหรัฐฯในการลดระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเธอหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามที่ว่า นายเนทันยาฮู คือพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ หรือไม่ โดยกล่าวย้ำแนวทางของรัฐบาลที่ว่าสหรัฐฯ กำลังกดดันอิสราเอลตลอดจนผู้นำในภูมิภาค เพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาและยุติการโจมตีเลบานอน
นักวิเคราะห์เตือนว่าความล้มเหลวในการกดดันอิสราเอลให้ยุติสงครามกาซาจะผลักดันให้ตะวันออกกลางเผชิญกับความขัดแย้งในภูมิภาคที่กว้างขึ้น และนักสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรอาวุธต่อรัฐบาลอิสราเอล โดยในปัจจุบันสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือด้านการทหารแก่อิสราเอลปีละประมาณ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอนุมัติความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1,400 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ความขัดแย้งในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว
สภาความสัมพันธ์อิสลามอเมริกัน (CAIR) ระบุในถ้อยแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันใช้เวลาหนึ่งปีในการปล่อยให้รัฐบาลอิสราเอลก่ออาชญากรรมสงครามที่ขยายตัวมากขึ้นและละเมิดต่อข้อกำหนดของสหรัฐเองเรื่องการห้ามขายอาวุธให้กับอิสราเอล เพิกเฉยต่อความเห็นของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่คัดค้านการส่งอาวุธเพิ่มเติมให้กับอิสราเอล
และในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะต้อนรับนายโยอัฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อหารือเกี่ยวกับพัฒนาการด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางที่กำลังดำเนินอยู่
...
#อิสราเอล
#กมลาแฮร์ริส
#สหรัฐ
#เลบานอน