การติดตามรับฟังปัญหารวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ป่าพรุสิรินธร (พลุโต๊ะแดง) ของนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยหม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และคณะที่ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร ในพื้นที่บ้านโต๊ะแดง ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
นายณรงค์พล หมึกทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตานี กล่าวว่า ปัญหาของป่าพรุโต๊ะแดง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คือประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบมักจะแอบลักลอบเผาป่า เพื่อแอบเพิ่มพื้นที่ในการทำการเกษตร เช่น การปลูกปาล์ม และต้นยาง เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแก้ไขมาตลอด ทั้งการประชาสัมพันธ์ ถึงผลดี ผลเสียของการเผาป่า และดำเนินการจับกุมมาตลอด แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ยังคงเป็นปัญหาหลักมาถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรตาม ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดนราธิวาส ก็กำลังระดมและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาของป่าพรุโต๊ะแดงให้ยั่งยืนและสมบูรณ์ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน
ขณะที่ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี แนะนำการแก้ปัญหานี้ ว่า ถ้าหากปัญหาไฟไหม้ป่าในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง เกิดจากฝีมือมนุษย์ ก็ควรแก้ไขปัญหาที่คน โดยเมื่อเกิดเหตุในพื้นที่ใด ก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ให้หัวหน้าส่วนราชการในท้องถิ่น ลงไปตรวจสอบ เช่น ให้นายอำเภอ ไปไล่สอบถามกำนัน หรือ นายกองค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) และไปถามผู้ที่ดูแลอยู่ในพื้นที่ คือผู้ใหญ่บ้าน ว่าปัญหาไฟไหม้ในพื้นที่เกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดมาจากใคร แล้วเมื่อรู้ถึงสาเหตุ ก็ดำเนินการตามขั้นตอนตั้งแต่ ตักเตือน ปราบปราม แต่ถ้าหากทำให้พื้นที่ป่าเสียหากมาก ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และถ้าหากมีเจ้าหน้าของรัฐ รับทราบ หรือเกี่ยวข้อง ก็ควรดำเนินการตั้งแต่ ย้ายออกจากพื้นที่ ให้ออกจากราชการ ไปถึงดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นอกจากดำเนินการในปราบปราม และบังคับใช้กฎหมายแล้ว ควรทำความเข้าใจ ชี้แจง กับชาวบ้านในพื้นที่ ให้ทราบถึงสิทธิในการใช้ ครอบครอง พื้นที่ป่า เพื่อทำให้ประชาขนเข้าใจ ซึ่งวิธีนี้คาดว่าจะทำให้ปัญหาการเผาป่าลดลง
ป่าพรุโต๊ะแดง มีพื้นที่ทั้งหมด209,755ไร่ โดยเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ 125,625ไร่ มีเขตติดต่อใน 9ตำบล ของจังหวัดนราธิวาส คือ ตำบลกะลุวอ ,ตำบลไพรวัน ,ตำบลบางขุนทอง ,ตำบลพร่อน ,ตำบลโฆษิต ,ตำบลสุไหงปาดี ,ตำบลปะลุรู ,ตำบลปูโย๊ะ ,และตำบลปาเสมัส ซึ่งประชาชนจะอาศัยอยู่ตามแนวชายขอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กว่า 17,845หลังคาเรือน หรือประชาชน กว่า 92,194คน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร ปลูกปาล์มน้ำมัน และต้นยางพารา เป็นต้น
ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด