หลังเกิดเหตุรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ไฟลุกไหม้มีผู้เสียชีวิต นพ.ธีรนันท์ มิตรภานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแพทย์รังสิต กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือมาตรการดูแลเยียวยาทางจิตใจหลังประสบเหตุที่อาจส่งผลกระทบกับความรู้สึก พร้อมดูแลอาการบาดเจ็บด้วยการให้ยาควบคู่กันด้วย พร้อมยืนยันว่า โรงพยาบาลมีความสามารถในการรักษา แต่หากมีความจำเป็นต้องย้ายไปรักษาตัวที่อื่นจะประสานงานภายหลัง
นพ.อโนชา ตาคำ แพทย์ศัลยกรรมประจำโรงพยาบาล เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้รับตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย เป็นผู้หญิงทั้งหมด ทุกคนรู้สึกตัว พูดคุยได้ดี จัดเป็นผู้ป่วยอาการสีแดง มีแผลไฟไหม้ระดับ 2 ต้องระวังการถูกน้ำ
ในจำนวนนี้มีอาการบาดเจ็บสาหัส 2 คน คนแรกอายุ 7 ปี มีรอยไหม้บนใบหน้า กระจกตา ช่องปาก มือขวา มีอาการหายใจติดขัดต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และรักษาตัวในห้องไอซียู รายนี้มีความเสี่ยงว่าอาจตาบอด ต้องติดตามอาการรายวันอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ครอบครัวของเด็กติดต่อเข้ามาหาโรงพยาบาลแล้ว อีกราย มีรอยไหม้คล้ายกันแต่อาการไม่รุนแรงเท่า พิจารณาว่าอาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ รายสุดท้ายถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
นางพรประภา อั๋นดอนกรอย ครูประจำชั้น ม.3 ซึ่งได้รับบาดเจ็บแผลพุพองที่มือ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รถออกจากโรงเรียนราวๆ ตี 5 ครึ่งถึง 6 โมงเช้า เฉลี่ย 1 คันต่อ 44 คน โดยแวะทัศนศึกษาที่ จ.พระนครศรีอยุธยาก่อน จากนั้นจึงขับตามกันมา 3 คัน ปรากฏว่ารถคันที่ 2 เกิดยางแตกและไปชนกับรถอีกหนึ่งคัน แล้วไปพุ่งชนแบริเออร์ ตนเลยบอกให้รถที่นั่งมาคันที่ 3 จอดแล้วรีบลงไปช่วยเด็ก ซึ่งตอนนั้นมีครูอยู่บริเวณประตูหน้า 3 คน เปิดประตูและช่วยเหลือเด็กบางส่วนออกมาได้ ก่อนที่ตนจะเห็นเด็ก 2 คนกระโดดและมีไฟลุกไหม้ที่ตัว ออกมาขอความช่วยเหลือ ตนเลยรีบอุ้มเด็กทั้งที่มีไฟลุกมือออกมา เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากรถที่มาด้านหลัง
นางพรประภา เปิดเผยต่อว่า ประตูข้างหลังของรถไม่สามารถเปิดได้ แต่ถ้าหากเปิดได้คงสามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตเด็กได้มากกว่านี้ ส่วนคนขับรถที่เห็นคือไม่ได้หนีแต่เขาพยายามจะเปิดรถ แต่ว่าก็ไม่สามารถเปิดได้ และก่อนหน้านี้โรงเรียนจัดทัศนศึกษากันทุกปี แล้วแต่ผู้ปกครองอนุญาต ไม่เคยใช้บริการของรถทัวร์บริษัทนี้มาก่อน
#อาการผู้บาดเจ็บ
#ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา