นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงผลการประชุม คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย วาตภัย และ ดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2 ว่า เวลานี้ทุกหน่วยราชการทั้งหมดมีความพร้อม ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ทุกส่วนในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่อุทกภัยดินโคลน ดินถล่ม น้ำท่วมปัจจุบันทันด่วนครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา ก็เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ จึงทำให้มีการปรับเปลี่ยนของพายุ ของร่องอากาศ เพราะฉะนั้นก็ต้องรับมือ สิ่งสำคัญน้ำมาครั้งนี้ ไม่เคยเกิดมาก่อนก็ทิ้งโคลนไว้ ซึ่งหนักมากที่เชียงราย ตอนนี้ปัญหาหลังน้ำท่วมคือ ดินโคลนที่อยู่ตามถนน ซอกซอย และในบ้านเรือนของประชาชน ก็กำลังวางแผนบูรณาการ
สำหรับการจ่ายเงินเยียวยา วันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) หลังนายกฯ ลงพื้นที่ จะสั่งการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเงิน 3,000 ล้านบาท ที่ ครม. อนุมัติ ได้โอนไปที่ ปภ. แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบการใช้เงิน ซึ่งจะลดขั้นตอนจาก 30 วัน ให้เหลือ 5 วัน โดยเงินก้อนแรกจะจ่ายให้ครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งผู้ว่าฯ สามารถจ่ายได้เลย เพราะมีงบจังหวัดละ 200 ล้านบาทอยู่แล้ว เบื้องต้นพยายามจะจ่ายให้ทั่วถึงก่อน จากนั้นจะพิจารณาเพิ่มเติม
ด้านการตั้ง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงไปดูแลพื้นที่ จ.เชียงราย เนื่องจากผู้ว่าฯเชียงรายป่วย และใกล้จะเกษียณแล้ว เพื่อไม่ให้ความช่วยเหลือขาดช่วง แม้ส่วนภาคเอกชนที่มาช่วย ขอให้มีการประสานงานให้ชัดเจน เพราะการระดมรถบรรทุกมาช่วย ซึ่งมีบางส่วนที่ผิดกฎหมาย เช่น บรรทุกน้ำหนักเกิน เกรงจะมีอันตรายถึงชีวิต จึงขอให้เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมาย
ส่วนกรณีอาสาสมัครที่นำรถมาช่วยน้ำท่วม เมื่อเดินทางกลับ ถูกกรมทางหลวง และตำรวจจับดำเนินคดีนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันอยากให้มีการประสานงานก่อน ในการนำอุปกรณ์ไปช่วย เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน แทนที่จะช่วยกลายเป็นเอาอุปกรณ์ไปกองรวมกัน กลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน อีกทั้งการนำอุปกรณ์มาบางครั้งก็บรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ตำรวจทางหลวงห่วงใย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายและกระทบต่อผู้อื่นที่ใช้เส้นทาง จึงขอดูข้อกฎหมายให้ดี และจะขอให้ช่วยผ่อนปรนอำนวยความสะดวก เพื่อแก้ปัญหาช่วงวิกฤตนี้ ในการหาทางออกร่วมร่วมกัน
ขณะที่ภาคอีสาน สถานการณ์ยังไม่วิกฤต แต่มีหน่วยงาน ปภ. และกองทัพภาคที่ 2 ดูแลอยู่แล้ว
#น้ำท่วม67