*รองนายกฯวิษณุ รับ แก้รธน.ชั่วคราวปลดล็อคบ้านเลขที่111/109ร่วมสภาขับเคลื่อนฯ*

การแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ สนช. โดยเปิดโอกาสให้คนที่เคยถูกเพิกถอนสิทธิในคดีทั่วไปสามารถเข้ามาเป็น สนช หรือ ครม.ได้ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดช่องให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. เข้ามาเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจนั้น

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขในประเด็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในส่วนของ สนช.เพียงที่เดียว แต่โดยเทคนิคของกฎหมาย คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามนี้ จะนำไปใช้ในทุกสิ่งทุกอย่างของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เช่น เป็นรัฐมนตรี สนช. สปช. และสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ ต่อไปก็จะเอาคนเหล่านี้มาเป็นได้ ซึ่งอาจทำให้การปรองดองและการปฏิรูปเป็นรูปธรรมมากขึ้น จากเดิมที่ระบุว่าต้องไม่เคยถูกถอนสิทธิเลือกตั้ง ที่เป็นการห้ามตลอดชีวิต เปลี่ยนมาเป็นไม่อยู่ระหว่างการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ฉะนั้นหากเกินกำหนดถูกเพิกถอนสิทธิมาแล้ว ก็จะไม่มีข้อห้ามอีกต่อไป อย่างน้อย มองเห็นคือโอกาสที่จะเอาคนเหล่านี้มาเป็นสภาขับเคลื่อนฯ ส่วนจะมาเป็นรัฐมนตรีเลยหรือไม่ ไม่กล้าคิดตรงนี้ แต่ถือเป็นการปลดล็อก รวมถึงบ้านเลขที่ 111 กับ 109 ที่พ้นกำหนดแล้ว ถือว่าเข้ามาได้

ส่วนการทำประชามติ ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการเปิดช่องให้ถามคำถามเรื่องต่ออายุรัฐบาล และคสช.ด้วยนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้คิดว่าจะต้องต่อ จึงไม่สามารถพูดตรง ๆ หรือพูดอ้อมๆได้ ยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านประชามติ แล้วจะนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้ หากไม่ผ่านก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันอีกครั้ง  โดยจะส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว ไปให้ สนช.ในวันนี้ หรือเช้าวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) สำหรับ การแก้ไขเงื่อนไขคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในครั้งนี้ เป็นการลดแรงกดดันจากฝั่งตรงข้ามหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คิดว่าอาจจะเพิ่มกระแสกดดัน แล้วแต่จะไปแปลความหมาย สรุปคือมองได้ว่าการแก้ไขเช่นนี้มันไม่มีโทษ มีแต่ประโยชน์ การไปล็อกไว้อย่างเดิมมันมีโทษ เพราะส่วนหนึ่งทำให้ขาดคนมีความสามารถเข้ามาทำงาน

แฟ้มภาพ